คติธรรม คำคม โดนใจ

ขอเชิญทุกท่านที่มีคติธรรม คำคม สอนใจ ได้เอื้อเฟื่อเผื่อแผ่แก่สาธารณชนทั่วไป เป็นข้อคิดสะกิดใจ ในการใช้ชีวิตประจำวันในสังคมทุกวันนี้


# เรื่อง อ่าน
 สังคมไทยมีดีคือวัฒนธรรมแห่งเมตตา แต่ต้องก้าวไปในวัฒนธรรมแสวงปัญญา
 พอปัญญามา ทุกข์ก็กลายเป็นสุขไป
 ถ้าถึงพระรัตนตรัย ก็ไม่รอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เลิกฝากตัวกับโชคชะตา
 คำว่ารักผู้อื่น เพียงคำเดียวเท่านั้นแหละพอ มันพอมันพอเป็นทุกอย่างทุกประการในการที่จะแก้ปัญหาอันเกี่ยวกับสันติสุข และสันติภาพของคนเรา
 การเห็นธรรมชาติอันลึกซึ่ง คือการเห็นความเป็นเช่นนั้นเอง
 ความเห็นถูก : จงพยายามปลูกฝังสัมมาทิฏฐิ เหมือนกับเอาเมล็ดพืชลงฝังในดินงอกหน่อออกมาแล้วก็เลี้ยงดูให้ดี ให้งอกให้งามเจริญเติบโตจนออกดอกออกผล
 สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้รับ สิ่งนั้นคือจิตใจที่สูง ที่สะอาด ที่สว่าง ที่สงบ เบียดเบียนตนเองก็ไม่ได้ เบียดเบียนผู้อื่นก็ไม่ได้และเป็นจิตใจที่มีความทุกข์ไม่เป็น
 อยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ทำอะไรอยู่ อย่าทิ้งตัวรู้
 ทุกวันนี้เราเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโลกรอบตัวในระดับที่ผู้คนในอดีตคงคาดไม่ถึง ข้อมูลข่าวสารกลายเป็นสินค้าสร้างรายได้สูง และเราก็กลายเป็นผู้บริโภค เฉกเช่นเดียวกันกับการบริโภคสิ่งอื่นๆ เราต้องคอยใส่ใจทั้งปริมาณและคุณภาพของการบริโภคข่าวสารข้อมูลของเรา
  เมื่อใดที่คิดถึงวันที่เราสละสิ่งที่เราชอบเพื่อคนอื่น ก็จะเกิดความสุขทันที
 ดำเนินชีพด้วยปัญญาการุณย์รัก ยึดเป็นหลักเปี่ยมค่ามหาศาล เป็นภาชนะรับไว้ในดวงมาน มงคลการอุดมแท้โดยแน่นอน
 คนเราเกิดคนเดียว แก่ก็แก่คนเดียว เจ็บก็เจ็บคนเดียว ตายก็ตายคนเดียว เรื่องการละกิเลส การบำเพ็ญกุศล ไม่มีใครทำให้เราได้ เป็นงานของเราโดยเฉพาะ
 เราก็จะไม่ต้องเพลิดเพลินกับสิ่งที่ชอบจนเกินไป... เจอสิ่งที่ไม่ชอบก็ไม่ต้องทุกข์ใจมาก เพราะสิ่งนั้นก็เปลี่ยนแปลงได้ ความรู้สึกของเราก็เปลี่ยนแปลงได้ ทั้งสองฝ่ายนี้ไม่แน่นอน นี่ไม่ใช่การปลอบใจ แต่เป็นการยอมรับความจริงที่เราสามารถมองเห็นได้
 เราพึงชำระจิตใจก่อนนอนด้วยการสวดมนต์ นั่งสมาธิ หรือแผ่เมตตา แล้วเราจะหลับดีขึ้น ต่อให้ฝันก็จะฝันดีกว่าเดิมและจะตื่นด้วยความรู้สึกสดชื่น
 ต้นแบบที่ดีงามของความสมบูรณ์แบบไม่ได้มุ่งเพียงผลในระยะสั้น แต่ให้ความสำคัญกับกระบวนการและความสัมพันธ์ระยะยาวเป็นหลัก
 อะไรเป็นอันตรายแก่ชีวิต ควรหลีกเว้น อะไรเกื้อกูลแก่ชีวิต ควรถือเอาประโยชน์ได้
 สิ่งทั้งหลายไม่เป็นไปตามใจของเรา แต่มันเป็นไปตามเหตุปัจจัยของมัน เราจึงต้องปฏิบัติจัดการมัน ด้วยปัญญาที่รู้เข้าใจและทำการให้ตรงเหตุปัจจัยของมัน
 ถ้าอยู่แค่กับความอยากความยึดนั้น ก็ไม่มีอะไรสำเร็จตามที่ปรารถนา แต่จะต้องเจอกับสภาพฝืนใจที่ย้อนกลับมาบีบคั้นตัวเองให้มีทุกข์อัดอั้นบอบช้ำ
 แค่มีความสุขในการเรียน ยังไม่พอ ต้องขอให้ เรียนแล้วกลายเป็นคนมีความสุข
 พระพุทธเจ้าตรัสว่า ถ้าจะพูดสิ่งที่ไร้ประโยชน์แล้ว ไปนอนเสียดีกว่า



จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย