หลังจากที่กลับจากการไปปฎิบัติธรรมมา

 Wanchai.pb    

คือว่าหลังจากที่ผมกลับจากการไปปฎิบัติธรรมมา
ช่วงแรกๆรู้สึกมีความสุขและความสงบที่ใจมากๆๆ
แต่หลังจากนั้นไม่นานผมก็รู้สึกว่าจะเริ่มกลับไปเหมือนเดิม
เมื่อไปเจอกับปัญหาและงานเดิมๆผู้คนเดิมๆทำให้จิตใจเราไม่สงบเหมือนตอนไปปฎิบัติธรรม
หรือเป็นเพราะผมต้องกลับไปทำกิจการงานตามเดิมที่มีแต่ปัญหาของคนอื่นๆก็ไม่รู้
ทั้งๆที่ตอนว่างๆจากงานผมก็พยายามฝึกสมาธิและดูจิตตัวเองทุกๆวัน
อยากเรียนถามท่านผู้รู้ได้โปรดเมตตาแนะนำผมด้วยครับ
ว่าทำอย่างไรจึงจะรักษาใจให้ดีได้ตลอดเวลาเหมือนตอนไปปฎิบัติธรรม
กราบขอบพระคุณมาล่วงหน้า   




การที่จะวัดความก้าวหน้าจากผลของการปฏิบัติธรรมไม่ใช่แค่เพียงให้จิตมีสภาวะนิ่ง ๆ หรือว่าง ๆ ไปจนตลอดนะคะ การที่ช่วงไปปฏิบัติธรรมแล้วจิตมันว่างมากนั้น เพียงเพราะมันว่างจากการกระทบของอารมณ์ต่าง ๆ มันก็เลยดูสงบกว่าปกติอ่ะค่ะ อาการอย่างนั้นดูมีความสุขมากก็จริง แต่สภาพความเป็นจริงของจิตมีเกิด ๆ ดับ ๆ อยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวก็ไปกระทบเรื่องนั้น เดี๋ยวก็เจอเรื่องนี้ ทำให้สภาพใจที่ยังรู้สึกความมีตัวตนอยู่ไปรับกระทบสิ่งเหล่านั้นมาปรุงแต่งให้จิตขุ่นมัวอ่ะค่ะ

การที่จะแก้ไขก็ไม่ใช่ไปฝืนใจนิ่งอยู่แบบนั้นไปตลอดนะคะ เพราะมันไม่ใช่ธรรมชาติของใจ ความจริงแล้วเมื่อสิ่งใดมากระทบเราต้องฝึกรับรู้แล้วใจจะนำมาพิจารณาตามความเป็นจริงน่ะค่ะ ว่าง่าย ๆ สิ่งเหล่านี้มันเป็นตัวกิเลสที่ทำให้ใจเราเศร้าหมองน่ะค่ะ ความเคยชินเรามักเอาเรื่องต่าง ๆ เก็บเข้ามาไว้ในใจ จนใจมันยุ่งเหยิงไปหมด แต่ก็ตรงนี้แหละค่ะ ต้องพิจารณาดูเอาว่าในสถานการณ์หนึ่ง ๆ เราควรจะทำกับมันยังไง ซึ่งโดยปกติแนวธรรมท่านก็มันจะให้มองตามความเป็นจริงว่าสิ่งทั้งปวงเป็นทุกข์ ไม่เที่ยง ไม่มีตัวตน อาจจามองได้ยากนะคะ แต่ก้อปล่อยวางอ่ะค่ะ เป็นทางจริง ๆ

สติเป็นตัวสำคัญที่จะนำให้เรารับรู้เสมอ..ทุกข์ท่านให้กำหนดรู้ค่ะ รู้ได้อย่างไร ก็คือตัวสตินี่แหละค่ะ ค่อย ๆ พิจารณาก็จะเห็นทางเอง..กิเลสว่าให้ง่ายก็มีเพียง โลภ โกรธ หลง

พิจารณาดูนะคะ


• อยู่ในลิฟต์ ผู้มีปัญญาย่อมวางกระเป๋าเดินทาง ภาวนาอยู่ก็เหมือนกัน ผู้มีปัญญาย่อมวางกระเป๋าอดีตและอนาคต

• ๖๑.ปางปาลิไลยก์

• (ทางวัดขอความอนุเคราะห์เจ้าภาพเร่งด่วน)

• นำสมาธิภาวนา โดยพระอาจารย์ชยสาโร

• ๖๗.ปางพิจารณาชราธรรม

• อนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ

RELATED STORIES




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย