ถึงคุณฉัตรพิไล
ถึง ผู้ใหญ่สมร เข่งสมุทร
.......น่าเห็นใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ปัญหานี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิดที่นี่เป็นที่แรก ในเมืองไทยเกิดขึ้นหลายที่แล้ว การกัดเซาะชายฝั่งทะเล เป็นการกัดเซาะจากที่หนึ่งแล้วนำดินที่ถูกกัดเซาะจากตรงนี้ ไปเพิ่มเนื้อที่ชายหาดอีกที่หนึ่ง ดังนั้นก็ยากที่จะมีสิ่งกีดขวางการกัดเซาะได้ นอกจากจะทำอย่างจริงจัง และคงต้องเป็นแผนการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งจากภาครัฐอย่างเต็มตัว ไม่ใช่เป็นการจัดสรรงบประมาณเฉพาะคราว แต่ต้องเป็นแผนการป้องกันที่จริงจัง แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า เราจะเสนอไปยังหน่วยงานไหนล่ะ...มีหน่วยงานที่จะออกโรงมาทำการรับรู้หรือไม่...ซึ่งกระผมเองก็เป็นราษฎรเต็มขั้นคนหนึ่ง จึงได้แต่แสดงความเห็นใจ
.....ที่จังหวัดเพชรบุรี...บ้านบางแก้ว ต.บางแก้ว อ.บ้านแหลม เกิดการกัดเซาะชายฝั่งมาตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว กลืนที่ดินและบ้านเรือนราษฎรเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรมาแล้ว และปัจจุบันก็ยังกัดเซาะอยู่ คนที่อยู่ติดทะเลก็ต้องหาทางกันเอง ผลสุดท้ายก็ต้องขายที่ดินอย่างถูกๆรีบหนีขึ้นมาอยู่ที่ตัวจังหวัด หรือที่ที่ห่างไกลจากชายฝั่ง วัดใน กับวัดนอก(ชื่อวัด) วัดในก็ได้ย้ายขึ้นไปอยู่กลางทุ่งห่างจากทะเลพอสมควร วัดนอกเมื่อก่อนอยู่ห่างจากชายฝั่งมาก เดี๋ยวนี้คลื่นซัดเข้าวัดแล้ว หลายครอบครัวขายที่ดินไม่ได้ ไม่มีใครซื้อเพราะทุกคนรู้ว่าทะเลกินเนื้อที่แน่นอน ก็ต้องนั่งดูทะเลมันกินเนื้อที่ของตัวเองไป นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากว่า 50 ปีมาแล้ว และเดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอยู่เช่นนั้น ทะเลมันไม่เลือกหรอกนะ ว่าที่ตรงนั้นเป็นของกำนัน ของผู้ใหญ่บ้าน หรือของลูกบ้าน ทะเลมันกินเรียบหมดแหละครับ ก็ไม่รู้ว่าจะไปร้องเรียนเรื่องทะเลรังแกประชาชนจากหน่วยงานใด นอกจากช่วยกันสร้างทำนบ พอสร้างได้ปีสองปี ทะเลก็เอาทำนบของเราลงไปในทะเลซะเลย แล้วคลื่นเล็กๆในทะเลก็กระซิบเยาะเย้ยเราว่า สร้างอีกซิ่...สร้างอีกซิ...กำลังหิวทำนบเล็กๆอยู่พอดีเลย.....คิดแล้วก็น่าร้องไห้
......เฮ้อ.....ใครล่ะจะไปแก้ธรรมชาติได้.......เนาะ
ค่ะ ขอบคุณนะค่ะสำหรับความคิดเห็นค่ะ
คือตอนนี้มันมีเขื่อนสลายพลังคลื่นอ่ะค่ะ
คือนำเสาไฟมาปักไว้เพื่อลดพลังคลื่นนะค่ะ
ซึ่งได้ผลค่ะ แต่ปัญหาอยุ่ที่งบนั่นแหละค่ะ
ใช่ค่ะ ถ้ารัฐบาลไม่ผลักดันให้เป็นปัญหาระดับชาติคงยากค่ะ
แต่ก็เข้าใจว่า ทางรัฐบาลเองก็คงงจะมีภาระที่ต้องแก้ปัญหาค่ะ
ยังไงก็ต้องขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะค่ะ ขอบคุณค่ะ