ถูกใส่ร้าย

     

คบเพื่อนมาในระยะไม่นานมาก ประมาณ1 ปี ตอนแรกก็มีความรู้สืกทึ่ดีต่อกันมาก มีอะไรก็แบ่งกันกิน
ปรีกษา และปรับทุกข์ด้วยกันตลอดมา จนอยู่มาวันหนี่ง ถูกเพื่อนกล่าวหาว่าโขมยเงิน และ โขมยพระของเขา ตอนนี้รู้สึกเสียใจมากที่ถูกมองว่าเป็นขี้โขมย และ ไม่ยากคบกับเพื่อนคนนี้อีกแล้วเพราะกลัว ไม่รู้จะเกิดเรื่องอะไรร้ายร้ายขึ้นอีก อยากขอความเห็นเพื่อนกัลยาณมิตร ช่วยชี้นำด้วยว่าควรทำตัว และทำใจอย่างไรดี เพราะไม่เคยโขมยของของใครจริงๆ เพื่อนคนนี้ทำงาน ไม่ดี ทำงานเต้นอโกโก้ เปลื้องผ้า
แต่ทึ่คบเพราะไม่เคยดูถูกใครและเห้นว่าเขาเป็นคนดี แต่นานวันเข้าเขาก็เปลี่ยนไป และได้รู้นิสัยที่ไม่ดีมากขิ้นจนสุดท้ายเกิดเรื่องแบบไม่ทันได้ตั้งตัว และเสียใจมาก ช่วยแนะนำทางสว่างด้วยคะ
   




ในเมื่อเราไม่ได้ทำความผิด ทำไมต้องเดือดร้อนในความผิดที่เราไม่ได้ทำด้วยหละคะ ^^ เวลาย่อมจะเป็นสิ่งพิสูจน์ความจริงเสมอ ......

การที่เราต้องมาพบเจอกับใครซักคน ไม่มีอะไรเป็นเรื่องบังเอิญหรอกค่ะ สิ่งที่เค้าทำกับคุณ มันก็ต้องมีเหตุกันมาก่อน คุณอาจจะเคยทำสิ่งนี้กับเค้ามาก่อนแต่อดีตแล้ว การที่เค้าจะมาเรียกร้องให้คุณชดใช้ ก็ถือว่าได้ใช้กรรมต่อกันไปแล้ว


จะทำอย่างไรดี ??? เมื่อกำลังเผชิญหน้ากับ " กรรม "
--------------------------------------------------------------------------------
บทของกรรมในตอนหนึ่งจากหนังสือพระไตรปิฎกฉบับพิเศษ ธรรมธาตุ ธรรมชาติ แห่งสรรพสิ่ง


อนึ่งการเผชิญภาวะต่างๆนั้นคือ " กรรมเก่า "

การตัดสินใจเลือกการตอบสนองนั้นคือ" กรรมใหม่ "

** ตัวอย่างเช่น**
นายดำเคยประทุษร้ายบุคคลผู้ไม่ผิดแต่กาลก่อน มาในบัดนี้กรรมนั้นทำให้นายดำถูกประทุษร้ายโดยไม่ผิด เมื่ออยู่ในภาวะเผชิญเช่นนี้ นายดำสามารถเลือกตอบสนองได้ 3 วิธีคือ

1. วางเฉย
ก็เป็นอันว่าได้รับผลกรรมแล้ว กรรมนั้นก็สิ้นสุดลง

2. ประทุษร้ายตอบ
ก็เป็นอันว่ารับกรรมเก่าและก็สร้างกรรมดำใหม่ขึ้นอีก
ในกาลต่อไปก็จักโดนประทุษร้ายอีกแน่นอน

3. อภัยและเมตตา
ก็เป็นอันว่ารับกรรมเก่าแล้ว ก็สร้างกรรมขาวใหม่ขึ้น
ในกาลต่อไปศัตรูนั้นก็จักกลายมาเป็นมิตร


พระพุทธองค์ตรัสว่า " หว่านพืชเช่นไร ก็ได้รับผลเช่นนั้น "

เพราะฉะนั้นต่อไปภายภายหน้าหากเราเกิดโมโหเพราะมีคนดูถูกเรา ก็จงย้อนระลึกนึกถามตัวเองก่อนว่า

" เราเคยดูถูกคนอื่นบ้างไหม? " และควรจะบอกกับตัวเองว่า " สิ่งที่เราได้รับอยู่นี้เป็นผลจากการกระทำที่ไม่ดีของเราในอดีต เราควรยอมรับเคราะห์กรรมนี้โดยไม่เคืองแค้นใครๆ เมื่อมันผ่านพ้นไปก็คือ เราได้ชดใช้หนี้กรรมของเราให้หมดไปครั้งหนึ่ง "

แท้จริงแล้วการที่เราทำอย่างนี้ ไม่เพียงแต่ชดใช้หนี้กรรมเท่านั้น แต่เรายังได้พิจารณาอุปนิสัย มีความอดกลั้นแลฝึกหัดระงับอารมณ์ของเราด้วย ......



• ธรรมะเอยย..*

• ปุญฺญานิ กยิราถ สุขาวหานิ ควรทำบุญอันนำความสุขมาให้

• "ศีลทำให้มุษย์เป็นเทวดา" (หลวงปู่ขาว อนาลโย)

• 80(24/03/64) เวลา 18.00 น. บรรยายธรรม โดย อ.ธรรมธีระ ธรรมมะพิสุทธิ์

• พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ (2399 - 2475)

• ขอเมตตาสร้างทางกันไฟรอบวัดเพื่อช่วยสัตว์น้อยใหญ่

RELATED STORIES




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย