ทำไมทำงานที่ไหน ชอบถูกเอาเปรียบ

 nnii    

คือสงสัยมาตลอดเวลาที่ทำงาน ทำไมทำที่ไหนเราทำตัวดี ขยัน งานหนักเท่าไรไม่เคยคิดว่า งานเยอะเลย
แต่มาเสียตรงเพื่อนร่วมงาน ชอบเอารัดเอาเปรียบเป็นที่สุด ย้ายงานก็หลายที่แล้ว แต่มีโชคดีที่ไม่ค่อยตกงาน คือพอออกจากที่นึง ก็จะได้งานเลย แต่ก็ไปพบแบบเดิมๆ

ยกตัวอย่าง ง่ายๆเรื่อง ทำความสะอาด พอเราทำก็จะกลายเป็นหน้าที่เรา ทั้งๆที่อยู่ร่วมกันก็ต้องช่วยกันทำ จึงไม่เข้าใจ นี่เป็นแค่ตัวอย่างนะคะ แต่เรื่องจริงถูกเอาเปรียบมาก และทุกอย่าง จนท้อและไม่อยากจะทำงานแล้วคะ

อยากรู้ว่าชาติที่แล้วเราไปกระทำอะไรไว้หรือคะ ชาตินี้ถึงต้องพบวิบากกรรมแบบนี้




ต้องยอมรับสภาวะละครับ

ก็ลองทำอยู่นานๆและหาเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นว่ามันมาจากอะไร

เราเข้ากับเพื่อนได้มากน้อยแค่ไหนยิ้มแย้มแจ่มใจ

ความท้อนั้นละครับคืออุปสัก

ตอนเย็นลองนั่งสมาธิเสร็จแล้วก็แผ่เมตตาทุกวันให้คนรอบข้างโดยเฉพราะเพื่อนร่วมงานครับ

ลองดูสักเดือนสองเดือนครับ

เพราะเราก็คงรับสภาพนี้มานานแล้วลองเอาธรรมะเข้าช้วยดู

วิบากเกิดจาก หู ตา จมูก ลิ้น พอมาถึงใจแล้วก็กลายเป็นกุศลและอกุศลแล้วครับ

ถ้าใจเราไม่เป็นกุศลโลกทั้งโลกก็เหมือนมันมืดมิดละครับ

ดูใจตัวเองอย่าเพ่งโทษคนอื่นครับ

นานไปเราก็ปล่อยเองเมื่อเราทำใจรับมันได้
ขอเอาใจช้วยครับ




โดย : nnii [DT09019] 25 ม.ค. 2552 19:10 น.

ขึ้นอยู่กับมุมมองเจ้าค่ะ

1.ถ้าคิดว่านี่คือการทำหน้าที่ดูแลลูกของเรา
ดูแลพ่อแม่ญาติพี่น้องของเรา
ดูแลคนรักคือสามีภรรยาของเรา ให้สุขสบาย
คุณจะคิดว่าเขาเอาเปรียบเราไหม?


2.ถ้าคิดว่านี่คือการทำเหตุคือการทำบุญขวนขวายช่วยเหลือคนอื่นให้สุขสบาย
มีอานิสงส์แสนเท่าในกาลข้างหน้าในทุก ๆ ภพที่เราเกิด
เราได้บุญได้เสวยสุขจากบุญนั้น
คนอื่นไม่ทำอะไรเลยย่อมไม่ได้บุญเลย ต่อไปพวกเขามีแต่ทุกข์
ส่วนคุณมีแต่สุขไปทุกภพทุกชาติ
คุณจะคิดว่าเขาเอาเปรียบเราไหม?


3.ถ้าคิดว่านี่คือการฝึกฝนการทำงานให้มีความชำนาญ
เพื่อเป็นผู้นำ เป็นผู้บริหารในกาลข้างหน้า เพื่อเป็นเศรษฐีในอนาคต
ที่จะต้องเข้าใจขั้นตอนการทำงานทุกระดับ
คนเป็นผู้นำต้องละเอียดปราณีตในทุกส่วนและทุกขั้นตอนของการทำงาน
คุณทำแล้วชำนาญขึ้น มีประสบการณ์ขึ้น เก่งขึ้น
ร่างกายและจิตใจแข็งแรงเข้มแข็งกว่าใคร ๆ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
คุณจะคิดว่าเขาเอาเปรียบเราไหม?



เจริญในธรรมเจ้าค่ะ



ไม่ต้องคิดมากเลยเรื่องแค่นี้เองเมื่อก่อนเราก็เจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆๆตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าทุกคนมีจิตใจเป็นของเขาเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเขาได้อยู่ที่เราตางหากที่จะทำใจคิดยังใงถ้าเราไปใส่ใจในทุกเรื่องที่คนอื่นพูดหรือทำเราคงใช้เวลาอีกทั้งชีวิตกับเรื่องของเขาเราไม่สามารถเปลี่ยนเขาได้อยู่ที่เราคิดเราคิดดีเราก็สบายใจปล่อยวางเถอะเขาอยากว่าหรืออยากทำไรก็มันเป็นเรื่องของเขาแล้วเราจะสบายใจในทุกๆๆที่โลกธรรม8 1.ลาภ-เสื่อมลาศ2.ยศ-เสื่อมยศ3.สรรญเสริญ-นินทา4.สุข-ทุกข์


เช่นกันค่ะไม่ต้องคิดมาก หากเป็นอย่างที่คุณตั้งคำถามไว้ ก็ให้มองที่ตัวเราเองก่อนว่าเราปฏิบัติกับเขาอย่างไร แล้วทำไมเขาถึงปฏิบัติกับเราเช่นนี้หนอ อย่างไรเสียเชื่อเถอะว่าเวรกรรมมีจริง แต่ก็ไม่อยากให้คิดแบบนี้นะเพราะว่ามันจะเป็นการคล้องกรรมกันไปเปล่า ๆ ให้คิดเสียที่ตัวเราเป็นที่ตั้ง แล้วหาทางแก้ไข ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าที่คุณคิด ทุกคนเจอเหมือนกันหมด อยู่ที่เวลาว่าช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง และเมื่อรู้สึกท้อแท้สุด ๆ หามุมสงบพักใจเราสักครู่ แล้วปัญญาจะเกิดตามมาแน่นอน และเปลี่ยนแปลงตัวเองซะ ในเมื่อเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้ ดูพูดง่ายนะแต่ทำคงยากนิดหนึ่ง ถือซะว่าเราก้าวผ่านมันไปได้แล้วกัน สู้ ๆๆๆๆๆ นะค่ะ


ในเมื่อเราต้องพบกับสภาพเช่นนั้น หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราต้องทำใจของเราไม่ให้หงุดหงิดก่อน คิดเสียว่าเรากำลังสร้างบารมีธรรม ขอให้สิ่งที่เราทำไปนี้ เป็นกุศลนำส่งเราให้พบกับสิ่งที่ดีๆ เราทำความดีและคนอื่นได้รับผลความดีที่เราทำนั่นคือเรากำลังเป็นผู้ให้ เป็นกุศลของเราจริงๆ ขอให้เราทำใจให้ปลอดโปร่ง และเย็น ยิ้มแย้ม ถือเสียว่าเป็นโจทย์ชีวิตให้เราฝึกความเสียสละ ความอดทน ซึ่งเป็นคุณสมบัติภายในที่มีค่ายิ่ง เป็นบารมีธรรมที่จะติดตัวเราไปนานแสนนาน

ข้อสำคัญ เราอย่าเครียด เราต้องรักตัวเรามากๆ อย่าทำอารมณ์ไม่ดีใส่จิตใจของเรา อารมณ์ดี จิตใจงาม ทุกอย่างคือโจทย์ชีวิต ผ่านมาแล้วมันก็จะผ่านไป


 4,000 

  แสดงความคิดเห็น


RELATED STORIES




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย