เชิญร่วมบุญปรับปรุง/เปลี่ยนโครงสร้างห้องกัมมัฏฐานจากไม้ที่ถูกปวก/มอดกินใกล้พัง เป็นโครงสร้างเหล็ก

 phraedhammajak    30 มี.ค. 2563

เชิญร่วมบุญปรับปรุง/เปลี่ยนโครงสร้างห้องกัมมัฏฐานจากไม้ที่ถูกปวก/มอดกินใกล้พัง เป็นโครงสร้างเหล็ก จำนวน 3 ห้อง ๆ ละ 30,000 บาท หรือตามกำลังศรัทธา
เชิญร่วมบุญได้ที่สำนักสงฆ์แพร่ธรรมจักร บ้านน้ำพุ หมู่ที่ ๓ ตำบลบ้านกวาง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ 54130 โทร 089 2137759
เนื่องจากห้องปฏิบัติธรรมของสำนักปฏิบัติธรรมแพร่ธรรมจักร บ้านน้ำพุ ตำบลบ้านกวาง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ โทร 0892137759 ที่ใช้ปฏิบัติธรรม เป็นที่ปลีกวิเวก เดิมใช้โครงสร้างไม้ ตอนนี้เกิดผุพัง มีปลวกมีมอด ทำให้ไม่แข็งแรง อาจพังทับผู้ปฏิบัติธรรมได้ จึงจำเป็นต้องหาปัจจัยมาบูรณะให้ดีขึ้น. โดยจะเปลี่ยนจากโครงสร้างไม้เป็นโครงสร้างเหล็ก
จึงขอเจริญพร เชิญชวนญาติโยมผู้ใจบุญทุกท่านร่วมบุญบูรณะห้องปฏิบัติธรรมให้ดีขึ้น เพื่อรองรับพระภิกษุ สามเณร และผู้ปฏิบัติธรรม ได้ใช้เป็นสถานที่เจริญภาวนาต่อไป

เชิญร่วมบุญปรับปรุง/เปลี่ยนโครงสร้างห้องกัมมัฏฐานจากไม้ที่ถูกปวก/มอดกินใกล้พัง เป็นโครงสร้างเหล็ก จำนวน 3 ห้อง ๆ ละ 30,000 บาท หรือตามกำลังศรัทธา
เชิญร่วมบุญได้ที่สำนักสงฆ์แพร่ธรรมจักร บ้านน้ำพุ หมู่ที่ ๓ ตำบลบ้านกวาง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ 54130 โทร 089 2137759

หรือที่ เลขบัญชี 014-8-83145-9 ชื่อบัญชี โครงการบุญสำนักปฏิบัติธรรมแพร่ธรรมจักร ประเภทบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย สาขา สูงเม่น

หรือที่เลขที่บัญชี 981-0-52153-7 ชื่อบัญชี พระกฤษกร กิตติปญโญ ประเภทบัญชี : ออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาสูงเม่น




ภาพการวช้ห้องปฏิบัติธรรม ปฏิบัติธรรมยามค่ำคืน


ภาพการวช้ห้องปฏิบัติธรรม ปฏิบัติธรรมยามค่ำคืน


ลักษณะห้องปฏิบัติธรรม ที่ยังต้องปรับปรุง เพราะผุพัง



ลักษณะห้องปฏิบัติธรรม ทั้งที่ปรับปรุงแล้ว



ลักษณะห้องปฏิบัติธรรม ทั้งที่ปรับปรุงแล้ว
ภาพการวช้ห้องปฏิบัติธรรม ปฏิบัติธรรมยามค่ำคืน


ลักษณะห้องปฏิบัติธรรม ทั้งที่ปรับปรุงแล้ว
ภาพการวช้ห้องปฏิบัติธรรม ปฏิบัติธรรมยามค่ำคืน


ลักษณะห้องปฏิบัติธรรม ที่ยังต้องปรับปรุง
ภาพการวช้ห้องปฏิบัติธรรม ปฏิบัติธรรมยามค่ำคืน


แพร่ธรรมจักร


สำนักปฏิบัติธรรมแพร่ธรรมจักร บ้านน้ำพุ หมู่ที่ ๓ ตำบลบ้านกวาง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ๕๔๑๓๐ โทร ๐๘๙ ๒๑๓๗๗๕๙
ขอเชิญทุกท่านมาถือศีลปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔ ( พองหนอ ยุบหนอ ) ณ สำนักสงฆ์แพร่ธรรมจักร โดยสามารถมาได้ทุกเมื่อตามโอกาสตามเวลา มาได้ตลอดปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ยินดีต้อนรับผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่าน

ผู้ที่ต้องการพิสูตรผลของการปฏิบัติจริง ๆ เพื่อให้วิปัสสนาญาณดำเนินไปตามลำดับ ญาณ ๑๖ จำเป็นจะต้องทำติดต่อ ต่อเนื่องเพื่อให้วิปัสสนาญาณเกิดขึ้น และดำเนินไปตามลำดับ จึงเปิดโอกาสให้ผู้มีความตั้งใจ อยากพิสูตรผลของการปฏิบัติได้มีโอกาสเข้าพิสูตร ซึ่งก็ต้องอาศัยเวลาพอสมควร ๑๕ วันเป็นอย่างน้อย แต่ก็เปิดโอกาสให้กับผู้มีเวลาน้อย มาปฏิบัติเอาพื้นฐานก่อนตามโอกาส ๓ วัน ๗ วัน โดยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถขอเข้าปฏิบัติได้ตลอดทั้งปี (ไม่ได้กำหนดวันเอาไว้ มาได้ตามสะดวก)
.......................................................................
การเจริญวิปัสสนา ต้องเจริญเพื่อมรรคผล อย่างแบบคิดว่า พอเป็นอุปนิสัยเท่านั้น การปฏิบัติแบบคิดว่าพอเป็นนิสัย ไม่ควรมีในหมู่พุทธศาสนิกชน เพราะเป็นการดูแคลนพระพุทธศาสนาเกินไป พูดกันตรง ๆ ก็ว่า ไม่มีความเชื่อถือจริง และไม่ใช่นักปฏิบัติจริง ปฏิบัติตามเขาพอได้ชื่อว่าฉันก็ปฏิบัติวิปัสสนาคนประเภทนี้แหละที่ทำให้พระพุทธศาสนา เสื่อมโทรม เพราะทำไปไม่นานก็เลิกแล้วก็เอาความไม่จริงไม่จังของตนเองนี่แหละไป โฆษณา บอกว่าฉันปฏิบัตินานแล้วไม่เห็นมีอะไรปรากฏเป็นการทำลายพระศาสนาโดยตรง ฉะนั้น นักปฏิบัติแล้วควรตั้งใจจริงเพื่อมรรคผลนิพพาน ( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ )

รายละเอียดระเบียบการขอเข้าปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานสำนักแพร่ธรรมจักร
หลักสูตรวิปัสสนากัมมัฏฐาน สติปัฏฐาน ๔ สำนักปฏิบัติธรรมแพร่ธรรมจักร ตระหนักในคุณค่าของการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ว่าเป็นเสมือนโอสถทรงสรรพคุณวิเศษที่สามารถลดอวิชชา และกิเลสอันเป็นต้นเหตุแท้จริงของความทุกข์ได้ ผู้ปฏิบัติเมื่อได้รับผลด้วยตนเองแล้วว่า ได้ทั้งปัญญาและความสุขก็เกิดศรัทธาที่จะขยายผลแห่งการปฏิบัติให้กว้างไกลออกไป ถึงบุคคลอื่นด้วย ทางสำนักแพร่ธรรมจักรจึงถือเอาการฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานเป็นกิจควรปฏิบัติและส่งเสริม ด้วยปณิธานดังกล่าวข้างต้นนี้ และเพื่อเป็นการฝึกฝนประสบการณ์ในการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานแก่ผู้มีศรัทธาในการประพฤติปฏิบัติ ทางสำนักแพร่ธรรมจักรจึงยินดีสนับสนุนผู้ที่มีความสนใจศึกษาปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานตามนัยแห่งสติปัฏฐาน ๔ ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอเข้าปฏิบัติที่สำนักได้ตลอดเวลา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
คุณสมบัติของผู้สมัครปฏิบัติธรรม
๑.ผู้จะเข้าปฏิบัติจะต้องกรองข้อมูลใบสมัคร พร้อมเอกสารประกอบการสมัคร สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต/วีซ่า /หนังสือสุทธิ รูปภาพ ขนาด 2 นิ้ว ให้ครบ
๒. เป็นผู้เปี่ยมศรัทธาในการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานตามนัยแห่งสติปัฏฐาน ๔ และสามารถเปิดใจยอมรับการสอนของพระวิปัสสนาจารย์
๓. เป็นผู้มีสุขภาพกายดี มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงและไม่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ อันจะก่อให้เกิดอุปสรรคในการปฏิบัติธรรม ไม่เป็นโรคติดต่อ (อาจขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพระอาจารย์ )
๔. เป็นผู้ที่มีสุขภาพจิตที่ปกติ ไม่วิกลจริต ไม่เป็นโรคลมชัก
๕. เป็นผู้ที่สามารถดูแลตนเองได้ เพราะการปฏิบัติครั้งนี้ผู้ปฏิบัติจะต้องควบคุมเวลาในการเดินจงกรมและนั่งสมาธิในแต่ละบัลลังก์ ตลอดจนการกำหนดอิริยาบถย่อยด้วยตนเอง
๖. สามารถรักษาศีล ๘ ได้ หรือหากมีเหตุจำเป็นก็อนุโลมเป็นศีล ๕ ได้แต่ขอให้ตั้งใจปฏิบัติธรรม
๗. ผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่าน ควรจะต้องอยู่ปฏิบัติได้อย่างน้อย ๗ คืน ๘ วัน หรือ ๑๕ วัน เพื่อจะได้รับผลของการปฏิบัติได้เต็มที่ หากมีความตั้งใจปฏิบัติ วิปัสสนาญาณเจริญโดยต่อเนื่องสามารถอยู่ปฏิบัติได้ระยะเวลาไม่จำกัด (หรือหากมีกิจจำเป็นที่ทำให้มาได้ไม่ครบระยะเวลาที่กำหนด ก็ให้แจ้งให้พระอาจารย์ทราบก็สามารถมาปฏิบัติ ได้ ๓ วัน ๗ วัน ตามโอกาส หรือมาเช้า เย็นกลับ ตามโอกาส
๘. สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบโดยเคร่งครัดหลักสูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เปี่ยมศรัทธาในการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานในแนวสติปัฏฐาน ๔ สำหรับผู้ที่ไม่เคยปฏิบัติหากต้องการจะเข้าอบรม ควรมั่นใจว่าจะตั้งใจปฏิบัติ และสามารถควบคุมตนเองให้รักษาวินัย ในการปฏิบัติได้

การเตรียมตัว-เตรียมใจ
๑. วางความรู้เดิมทั้งหมดไว้ที่บ้าน/วัด ทำตนประหนึ่งเป็นนักเรียนที่เริ่มเรียนรู้ เพื่อรับประสบการณ์ใหม่
๒. วางภารกิจทั้งหลายไว้ที่บ้าน ตัดความกังวลในทุก ๆ เรื่อง
๓. วางยศศักดิ์ ฐานะ ตาแหน่งทั้งหมดไว้ที่บ้าน/ที่ทางาน/วัด
๔. ตั้งใจปฏิบัติตามวิธีการที่พระวิปัสสนาจารย์สอน
๕. พึงกาหนดใจว่า สิ่งที่ได้ฟังนั้นเป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ควรน้อมนามาประพฤติปฏิบัติ

การเตรียมของใช้
๑. เพื่อแสดงความเคารพต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์และสถานที่ ผู้ปฏิบัติควรแต่งกายดังนี้ สุภาพบุรุษ แต่งกายสุภาพ สวมเสื้อสีขาว กางเกงขายาว (ไม่สวมกางเกงยีนส์ กางเกงขาสั้น ขาสามส่วน หรือสวมผ้าเนื้อบาง และไม่คาดผ้าขาวม้า) สุภาพสตรี แต่งกายสุภาพ สวมเสื้อผ้าชุดสีขาว ผ้าถุง กางเกงหรือกระโปรงยาวเหนือข้อเท้า (ไม่ควรสวมผ้าเนื้อบาง ใส่กางเกงยีนส์ รัดรูป กางเกงขาสั้นหรือสามส่วน หรือเสื้อคอกว้าง ตัวสั้น เอวลอย )
๒. เตรียมของใช้ส่วนตัว เช่น รองเท้าแตะ ถุงเท้า ทิชชู สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ยาสระผม หวี ผ้าเช็ดตัว ผงซักฟอก ผ้าอนามัย ยางรัดผม กิ๊บติดผม ยาประจำตัว รวมทั้งของใช้ส่วนตัวอื่น ๆ เท่าที่จำเป็นมาให้พร้อม ( หากไม่มีก็สามารถติดต่อทางสำนักได้ )
๓. ดอกไม้ ( ดอกไม้สีขาว ) ธูป เทียน รับศีล
การบริการของสำนัก

ทางสำนักแพร่ธรรมจักรได้เล็งเห็นว่าความสัปปายะของผู้ปฏิบัติเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกุฏิที่พัก ศาลาปฏิบัติธรรม อาหาร น้ำดื่ม และการบริการทั่ว ๆ ไป มีผลโดยตรงต่อการปฏิบัติธรรมของผู้เข้าปฏิบัติ ทางสำนักได้จัดให้อำนาย ความสะดวกแต่พอสมควรกับผู้มาปฏิบัติธรรม
๑. กุฏิที่พัก ที่พักแบบกุฏิเดี่ยว ที่ สำหรับผู้ปฏิบัติหนึ่งท่าน (หรือหากมาหลายท่านก็สามารถพักร่วมกันได้แต่ปฏิบัติคนละที่) มีห้องน้ำ มีของใช้ให้ เช่น ฟูก หมอน ผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน ผ้าห่ม นาฬิกา
๒. อาหาร ได้เตรียมอาหารให้ผู้ปฏิบัติธรรมวันละ ๒ มื้อ คือ มื้อเช้า และเพลตอนเย็นมีน้ำปานะให้ ( มื้อเช้าจะพิจารณาและรับประทานร่วมกัน มื้อเดียว ส่วนเพล ให้ผู้มาปฏิบัติธรรมมาพิจารณาเองเมื่อถึงเวลา ที่ห้องครัว )

กฎระเบียบและข้อบังคับในระหว่างการอยู่ปฏิบัติธรรม
๑. ดูแลข้าวของเครื่องใช้ในกุฏิเสมือนเป็นของตัวเอง
๒. กุฏิที่พักซึ่งจัดไว้เฉพาะพระสงฆ์ก็ดี บุรุษก็ดี สตรีก็ดี ห้ามมิให้เพศตรงข้ามเข้าไปนอน หรือใช้ห้องน้ำโดยเด็ดขาด
๓. เมื่อขึ้นกรรมฐานในวันแรกแล้ว ไม่อนุญาตให้ออกไปนอกเขตปฏิบัติธรรมโดยเด็ดขาด ถ้ามีเหตุจาเป็นให้เรียนกับพระอาจารย์ด้วยตนเอง โยคีจะต้องพักในกุฏิที่พักที่จัดไว้ให้เท่านั้น ห้ามย้ายหรือสับเปลี่ยนกุฏิที่พักก่อนได้รับอนุญาต
๔. ในระหว่างการปฏิบัติธรรม ให้ลงปฏิบัติธรรมที่ศาลาปฏิบัติธรรมหรือสถานที่ ที่พระอาจารย์กำหนดให้
๕. ไม่ติดต่อกับใครตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นจริงๆซึ่งต้องผ่านการพิจารณาและได้รับอนุญาตจากพระอาจารย์
๖. เมื่อเข้ากรรมฐานแล้ว ห้ามสวดมนต์ ( สวดเองในห้องเป็นการรบกวนผู้ปฏิบัติธรรมด้วยกัน พระอาจารย์จะพาสวดมนต์แปล เช่น บทพระธรรมจักร มรรคมีองค์ ๘ เป็นต้นและอธิบาย เพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมเข้าใจ ใน ๓-๔ วันแรก ในศาลา )ห้ามอ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ฟังวิทยุ และใช้โทรศัพท์มือถือ และไม่ทำกิจกรรมที่ไม่เอื้อต่อการทำกัมมัฏฐาน เช่น ร้อยพวงมาลัย ถักไหมพรหม ฯลฯ
๗. ในระหว่างอยู่ปฏิบัติธรรมตามหลักสูตรนี้ ไม่นำวิธีการปฏิบัติแบบอื่นมาปฏิบัติ
๘. ปฏิบัติตามคำสอนของพระวิปัสสนาจารย์โดยเคร่งครัด ห้ามคุย บอก หรือสอบถามสภาวธรรมกับพระภิกษุ แม่ชี หรือผู้ปฏิบัติธรรมด้วยกัน เป็นอันขาด หากมีความสงสัยในการปฏิบัติ ให้สอบถามพระอาจารย์ผู้สอบอารมณ์แต่เพียงท่านเดียว
๙. ผู้เข้าปฏิบัติธรรม ต้องถือศีล ๘ โดยเคร่งครัด ไม่แต่งหน้าทาแป้ง หรือใช้เครื่องหอมต่าง ๆ ห้ามสวมใส่เครื่องประดับทุกชนิด ยิ่งศีลท่านบริสุทธิ์เท่าใดผลการปฏิบัติก็บังเกิดได้ชัดเจน (หากมีเหตุจำเป็น เช่น ผู้ป่วยที่ต้องทานยาหลังอาหารเย็นให้แจ้ง จะได้จัดให้ตามความเหมาะสมของท่านตามที่ต้องการ )
๑๐.ไม่ยืนดื่มน้ำ ไม่ยืนรับประทานอาหาร และไม่รับประทานอาหารเสียงดัง
๑๑. หากมีความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ให้ปรึกษาพระวิปัสสนาจารย์หรือผู้ประสานงาน
๑๒. พึงเจริญสติ กำหนดรู้อาการของกาย ใจ สม่ำเสมอ และต่อเนื่อง ทั้งที่ศาลาปฏิบัติธรรม ห้องรับประทานอาหาร ห้องนอน ทุก ๆ ขณะ ระหว่างการปฏิบัติ แม้ในเวลาพักเปลี่ยนอิริยาบถ ผู้ปฏิบัติธรรมจะต้องสำรวมกาย วาจา ใจให้เป็นปกติตลอดเวลาที่อยู่ปฏิบัติธรรม สำรวมตนอยู่ในเขตวัด ใช้หลักสติปัฏฐานสี่ในการฝึกปฏิบัติธรรม กำหนดสติตลอดเวลา
๑๓. พยายามอย่าพูดคุย ในสิ่งที่ไม่จำเป็น กับผู้ปฏิบัติด้วยกันเอง เพราะจะเป็นภัยแก่ผู้ที่กาลังปฏิบัติทั้งต่อตนเองและผู้อื่น โดยจะทำให้จิตฟุ้งซ่านและเสียสมาธิ หากมีความสงสัยในการปฏิบัติอย่างไรแล้ว ให้สอบถามพระวิปัสสนาจารย์ ถ้ามีความจำเป็นจริง ๆ ก็ให้พูดเบา ๆ ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ แต่ไม่ควรพูดนาน เพราะจะทำให้ฟุ้งซ่าน ทั้งผู้พูดและผู้ฟัง และทำให้การปฏิบัติไม่ก้าวหน้า ต้องไม่ใช้เสียงห่างจากตัว ห้ามส่งเสียงและทำกิจกรรม อันเกิดเสียงดังรบกวนผู้อื่น ยกเว้นกรณีเสียงจากงานที่จำเป็น
๑๔.งดเว้นจากสิ่งเสพติดทุกชนิด อาทิ เครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน บุหรี่ หมาก เครื่องดองของมึนเมา กาแฟ น้ำชา เป็นต้น และห้ามนายาเสพติดทุกชนิดเข้ามาในสำนัก เป็นอันขาด
๑๕.ตื่นตี ๔.๐๐ น. และเข้านอน ๒๒.๐๐ น. หรือตามที่พระวิปัสสนาจารย์กำหนดให้
๑๖.ถ้ามีปัญหาด้านสุขภาพหรืออื่น ๆ ให้ติดต่อผู้ประสานงานโดยด่วน
๑๗.ผู้ปฏิบัติธรรมต้องพิจารณาตนเองอยู่เสมอ อย่าพิจารณาผู้อื่นว่า “ ดีหรือไม่ดี ” ห้ามก่อเหตุทะเลาะวิวาท ด่าทอ พูดจาเสียดสี หรือแสดงกิริยาอาการอื่นใดในทำนองเดียวกัน หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น คู่กรณีต้องออกจากวัดไปโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น
๑๘.ห้ามนำของมาขาย บอกบุญเรี่ยไร ห้ามเล่นการพนัน บอกหวย ห้ามเป็นหมอดู หมอนวด หมอเวทย์มนต์ เล่นไสยศาสตร์ ทรงเจ้าเข้าผี โดยเด็ดขาด
๑๙.ห้ามเด็ดดอกไม้ ใบไม้ ทำลายต้นไม้ ตัดกิ่งไม้ ภายในสำนักฯ โดยเด็ดขาด ในกรณีที่ผู้ปฏิบัติธรรมไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบดังกล่าวข้างต้น และได้รับการตักเตือนจากพระวิปัสสนาจารย์หรือผู้ประสานงานแล้วก็ยังคงประพฤติปฏิบัติเช่นเดิมอยู่ ผู้ปฏิบัติธรรมต้องยินยอมที่จะออกจากสำนักฯ โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น และในการเข้าปฏิบัติธรรมครั้งต่อๆไป ทางสำนักฯ จะพิจารณาที่จะไม่รับผู้ปฏิบัติที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบเข้ารับการอบรมอีก

ข้อพึงปฏิบัติเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะมีผลต่อการปฏิบัติเป็นอย่างมาก
๑. ปฏิบัติธรรมจะต้องระลึกเสมอว่า เรามาปฏิบัติ เพื่อยกระดับจิตใจ ขัดเกลากิเลสตัณหาให้เบาบางลง มิใช่มาเพื่อหาความสุขในการอยู่ดีกินดี เราจึงต้องใช้ความอดทนเป็นพิเศษต่อความไม่สะดวก และกระทบกระทั่งต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องทดสอบความอดทน และคุณธรรมของผู้ปฏิบัติธรรมว่ามีอยู่มากน้อยเพียงใด
๒. เพื่อความสะดวกในการกราบแบบสติปัฎฐาน ๔ ผู้ที่ไว้ผมยาวให้ใช้ยางรัดผม ที่คาดผม หรือกิ๊ฟติดผม ผู้หญิงให้ใช้เข็มกลัดติดสไบไม่ให้หลุดลุ่มเวลากราบ
๓. ผู้ปฏิบัติธรรม จะต้องไม่นาสิ่งของมีค่าติดตัวมาด้วย หากมีการสูญหายเกิดขึ้นสำนัก จะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
๔. เพื่อเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้ทางศูนย์ฯ ผู้ปฏิบัติธรรมพึงใช้น้ำ ไฟฟ้า อย่างประหยัด ไม่ควรเปิดไฟฟ้า เสียบกระติกน้าร้อน หรือเปิดพัดลมทิ้งไว้เมื่อไม่อยู่ห้องพัก กรุณานาขยะไปทิ้งในถังขยะ ตามจุดที่ได้วางไว้ ไม่ควรทิ้งถุงขยะที่สามารถนามาใช้ต่อได้ เพื่อช่วยลดมลพิษ )
๕. ขอความร่วมมือผู้ปฏิบัติช่วยทำความสะอาดกุฏิที่พัก ดูแลรักษาอุปกรณ์ - เครื่องใช้ให้ครบและอยู่ในสภาพดีก่อน ก่อนส่งคืนแจกุฏิในวันกลับ (ผ้าห่ม ปลอกหม่อน ผ้าปูที่นอน ให้นำมาซักที่เครื่องซักผ้า ก่อนส่งคืน หรือจ้างให้ผู้ดูแลซัก)

ตารางเวลาปฏิบัติธรรมแพร่ธรรมจักร

เวลา ๐๔.๐๐ น. ตื่นนอน - ทำความสะอาด
เวลา ๐๕.๐๐ น. เจริญวิปัสสนา เดินจงกรม-นั่งสมาธิ
เวลา ๐๗.๐๐ น. ออกบิณฑบาต(พระ) โยมทำความสะอาด
เวลา ๐๘.๐๐ น. พิจารณาอาหาร
เวลา ๐๙.๓๐ น. เจริญวิปัสสนา/ เดินจงกรม / นั่งสมาธิ
เวลา ๑๑.๐๐ น. พิจารณาอาหาร / พัก / ทำอิริยาบถย่อย
เวลา ๑๓.๐๐ น. ปฏิบัติวิปัสสนา / เดินจงกรม / นั่งสมาธิ
เวลา ๑๖.๐๐ น. สอบอารมณ์ / พักดื่มน้ำปานะ
เวลา ๑๗.๐๐ น. ทำความสะอาด / อาบน้ำ
เวลา ๑๘.๐๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น /ปฏิบัติวิปัสสนา
เวลา ๒๑.๐๐ น. แผ่เมตตา / พักผ่อน / นอนสติปัฏฐาน ๔
หมายเหตุ เวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม และดุลพินิจของพระอาจารย์
พระกฤษกร กิตติปญโญ เจ้าสำนักแพร่ธรรมจักร


กำลังรวบรวมปัจจัย เชิญร่วมบุญตามกำลังศรัทธา


ดำเนินการรื้อถอน


เจริญพร ได้ดำเนินการสร้างสำเร็จแล้ว ขออนุโมทนาบุญ


เจริญพร ได้ดำเนินการสร้างสำเร็จแล้ว ขออนุโมทนาบุญ


เจริญพร ได้ดำเนินการสร้างสำเร็จแล้ว ขออนุโมทนาบุญ


เจริญพร ได้ดำเนินการสร้างสำเร็จแล้ว ขออนุโมทนาบุญ


  3,303 

  แสดงความคิดเห็น


RELATED STORIES



จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย