
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
ผู้ซึ่งไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง
อินทรีย์ ๕
๐ ทั้ง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
ถูกลูบไล้ คลุกไป ในผัสสา
ผัสสะเกิด จึงกำเนิด เวทนา
อารมณ์ทั้งห้า ต่างกันไป ในโคจร

เจริญในธรรม เจ้าค่ะ
จิต เป็นที่ยึดเหนี่ยวอินทรีย์ ๕
๐ เพราะการเกิด เวทนา จากผัสสะ
อายตนะ เคล้าคละ มิผละถอน
แต่ละอย่าง ต่างกันไป ในโคจร
มิคลายคลอน อินทรีย์ ที่เกิดมา
๐ จักขุนทรีย์ โสตินทรีย์ มนินทรีย์
ชิวหินทรีย์ กายินทรีย์ ที่เกิดหนา
ไม่ข้องเกี่ยว ต่างกันไป ในมรรคา
เพราะทั้งห้า มี "จินตนา" ยึดเหนี่ยวไว้
เจริญในธรรม เจ้าค่ะ
# 1 / หิ่งห้อยน้อย / 3 ก.ค. 2554 เวลา 00:15 น.
กราบสวัสดีค่ะคุณป้าหิ่งห้อยน้อย และท่านสมาชิกผู้เจริญในธรรมทุกท่าน
หลานลำปอ (เด็กหญิงภาษา) เองค่ะ ห่างหายจากเว็บธรรมะไทยไปนาน เนื่องด้วยภาระกิจและกิจวัตรประจำวันที่ทำตัวเองให้ยุ่งเหยิง วันนี้กลับมารายงานตัวอีกครั้ง แม้จะยังไม่มีบทกวีมาให้พิจารณา แต่จะแวะเวียนมาศึกษาธรรมะบ่อยๆค่ะ ^^
ขอบพระคุณค่ะ
# 2 / พร 3 ประการ / 6 ก.ค. 2554 เวลา 11:09 น.
๐ ก็อะไร เป็นที่ ยึดเหนี่ยวจิต
"สติ" สถิต ยึดเหนี่ยวจิต สนิทไว้
และ "วิมุตติ" ยึดเหนี่ยวสติ ดำรินัย
"นิพพาน" ไซร้ ที่ยึด วิมุตติ หยุดวัฏฏา
[๙๖๗] ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ
อินทรีย์ ๕ ประการนี้ มีอารมณ์ต่างกัน มีโคจรต่างกัน
ไม่เสวยอารมณ์อันเป็นโคจรของกันและกัน
อินทรีย์ ๕ ประการเป็นไฉน? คือ
จักขุนทรีย์ ๑ โสตินทรีย์ ๑ ฆานินทรีย์ ๑
ชิวหินทรีย์ ๑ กายินทรีย์ ๑
อะไรเป็นที่ยึดเหนี่ยวของอินทรีย์ ๕ ประการนี้ ซึ่งมีอารมณ์ต่างกัน มีโคจรต่างกัน
ไม่เสวยอารมณ์อันเป็นโคจรของกันและกัน และ อะไรย่อมเสวยอารมณ์
อันเป็นโคจรของอินทรีย์ ๕ ประการนี้?
ดูกรพราหมณ์
อินทรีย์ ๕ ประการนี้ มีอารมณ์ต่างกัน มีโคจรต่างกัน
ไม่เสวยอารมณ์อันเป็นโคจรของกันและกัน อินทรีย์ ๕ ประการเป็นไฉน? คือ
จักขุนทรีย์ ๑ โสตินทรีย์ ๑ ฆานินทรีย์ ๑
ชิวหินทรีย์ ๑ กายินทรีย์ ๑
ใจเป็นที่ยึดเหนี่ยว ของอินทรีย์ ๕ ประการนี้
ซึ่งมีอารมณ์ต่างกัน มีโคจรต่างกัน
ไม่เสวยอารมณ์อันเป็นโคจรของกันและกัน
และใจย่อมเสวยอารมณ์ อันเป็นโคจรของอินทรีย์ ๕ ประการนี้.
เจริญในธรรม เจ้าค่ะ
# 3 / หิ่งห้อยน้อย / 8 ก.ค. 2554 เวลา 01:21 น.