นตฺถิ โลเก รโห นาม
ชื่อว่าที่ลับย่อมไม่มีในโลก

พุทธศาสนสุภาษิต
/ติกนิบาต อังคุตตรนิกาย/

๏ พุทธสุภาษิต: นตฺถิ โลเก รโห นาม
คำอ่าน: นัด-ถิ โล-เก ระ-โห นาม

คำแปล: ชื่อว่าที่ลับย่อมไม่มีในโลก

คำอธิบาย:

พุทธสุภาษิตบทนี้สอนให้เราตระหนักถึงความจริงที่ว่า ไม่มีการกระทำใดๆ ของเราที่จะเป็นความลับได้อย่างแท้จริงในโลกนี้ ไม่ว่าเราจะคิดว่าเราทำในที่มิดชิดเพียงใด หรือไม่มีใครรู้เห็นการกระทำของเราก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว การกระทำนั้นย่อมส่งผลกระทบและถูกเปิดเผยในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

คำว่า "นตฺถิ" แปลว่า ไม่มี
คำว่า "โลเก" แปลว่า ในโลก
คำว่า "รโห" แปลว่า ที่ลับ, ความลับ
คำว่า "นาม" ใช้เน้นความหมายของคำนามข้างหน้า แปลว่า ชื่อว่า, โดยแท้

ความหมายโดยรวมคือ ทุกการกระทำของเรา ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา หรือใจ ล้วนแล้วแต่ทิ้งร่องรอยและมีผลสืบเนื่องตามมาเสมอ อาจจะไม่ถูกเปิดเผยในทันที หรือต่อหน้าคนที่เราต้องการปิดบัง แต่ผลของการกระทำนั้นจะยังคงอยู่และอาจปรากฏขึ้นในภายหลัง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

เหตุผลที่ "ชื่อว่าที่ลับย่อมไม่มีในโลก":
• กฎแห่งกรรม: ในทางพระพุทธศาสนามีกฎแห่งกรรม ซึ่งหมายถึง การกระทำใดๆ ย่อมส่งผลตามมาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว ผลของกรรมนั้นอาจจะปรากฏในชาตินี้หรือชาติหน้าก็ตาม ดังนั้น การกระทำที่เป็นความลับต่อผู้อื่นก็ไม่อาจหลีกพ้นจากผลของกรรมได้
• ธรรมชาติของโลก: โลกมีความเชื่อมโยงกัน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสัมพันธ์กัน การกระทำของเราย่อมส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและผู้คนรอบข้าง ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
• จิตสำนึก: แม้ว่าผู้อื่นจะไม่รู้เห็นการกระทำของเรา แต่ตัวเราเองย่อมรู้ดีถึงสิ่งที่ได้กระทำลงไป จิตสำนึกของเราจะคอยเตือนและติดตามเราอยู่เสมอ
การเปิดเผยโดยธรรมชาติ: บางครั้งความลับก็ถูกเปิดเผยด้วยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หรือโดยบุคคลที่สามโดยที่เราไม่รู้ตัว

สรุป:

พุทธสุภาษิตบท "นตฺถิ โลเก รโห นาม" เป็นคำสอนที่เตือนสติให้เรามีความระมัดระวังในการกระทำทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นการกระทำต่อหน้าผู้อื่นหรือเป็นการกระทำที่เราคิดว่าเป็นความลับ เพราะแท้จริงแล้ว ไม่มีความลับใดๆ ที่จะดำรงอยู่ได้ตลอดไปในโลกนี้ ทุกการกระทำของเราย่อมมีผลและถูกเปิดเผยในที่สุด ดังนั้น เราจึงควรดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีสติ และตระหนักถึงผลของการกระทำของเราอยู่เสมอ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนหรือเสียใจในภายหลัง ๛