ค้นหาในเว็บไซต์ :

ยสฺมิํ ปาปานิ กมฺมานิ สวา กณฺโหติ วจฺจติ บาปกรรมมีในผู้ใด ผู้นั้นแลท่านว่าคนดำ


ยสฺมิํ ปาปานิ กมฺมานิ สวา กณฺโหติ วจฺจติ บาปกรรมมีในผู้ใด ผู้นั้นแลท่านว่าคนดำ

พุทธสุภาษิต
/ทุกนิบาตชาดก/

๏ คำว่า "ยสฺมิํ ปาปานิ กมฺมานิ สวา กณฺโหติ วจฺจติ" เป็นพุทธสุภาษิตที่มาจาก มหาปเทสสูตร ในพระไตรปิฎก หมายถึง "บาปกรรมมีในผู้ใด ผู้นั้นแลท่านว่าคนดำ" สุภาษิตนี้ไม่ได้หมายถึงสีผิวภายนอก แต่หมายถึงสภาพจิตใจภายในที่ถูกครอบงำด้วยบาปอกุศล 😈 ทำให้จิตใจเศร้าหมอง ขุ่นมัว เหมือนถูกย้อมด้วยสีดำ

ความหมายของพุทธสุภาษิต
สุภาษิตนี้ใช้ "สีดำ" เป็นสัญลักษณ์ของ ความชั่วร้าย หรือ อกุศลกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับ "สีขาว" ที่เป็นสัญลักษณ์ของ ความดีงาม หรือ กุศลกรรม 😇 เมื่อคนเราทำบาปกรรม จิตใจจะถูกมลทิน ทำให้ความบริสุทธิ์ลดลง เหมือนผ้าขาวที่เปื้อนคราบดำ และคราบนั้นก็ยากที่จะขัดออก

กณฺโห (กันโห) ในที่นี้จึงหมายถึง คนที่มีจิตใจสกปรก หรือ ผู้ที่มีความมืดบอดทางจิต เพราะถูกบาปกรรมกัดกิน ไม่ใช่คนที่มีผิวดำจริงๆ การกระทำบาปกรรมต่างๆ เช่น ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ และดื่มสุรา ทำให้จิตใจของผู้กระทำมืดบอดและถูกพันธนาการไว้ในห่วงของกรรมไม่ดี ⛓️

สรุป
พุทธสุภาษิต "ยสฺมิํ ปาปานิ กมฺมานิ สวา กณฺโหติ วจฺจติ" สอนให้เราเข้าใจว่า "ความชั่วร้ายหรือบาปกรรมไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอก แต่อยู่ที่การกระทำและจิตใจ" 💖 ผู้ที่ทำกรรมชั่ว ผู้นั้นชื่อว่าเป็นคนดำ หรือมีจิตใจดำมืด แม้จะมีผิวขาวบริสุทธิ์แค่ไหนก็ตาม และในทางกลับกัน ผู้ที่ทำแต่กรรมดี มีจิตใจบริสุทธิ์ ผู้นั้นก็เปรียบเสมือนคนขาว หรือคนที่มีจิตใจผ่องใส แม้จะมีผิวดำก็ตาม 🤍

สุภาษิตนี้เน้นย้ำถึง ความสำคัญของการทำความดี และ การละเว้นความชั่ว เพื่อให้จิตใจของเราบริสุทธิ์ผ่องใสอยู่เสมอ ✨



15







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย