"นายพรานคืนศีล" ตอนที่ ๑๒. "บุพกรรมของหญิงเปรต ๕๐๐ ตน/งูเหลือมใหญ่/พระราชา

 วิริยะ12  

 "นายพรานคืนศีล" ตอนที่ ๑๒. "บุพกรรมของหญิงเปรต ๕๐๐ ตน/งูเหลือมใหญ่/พระราชา
โดย หลวงปู่จันทา ถาวโร

ตอนที่ ๑๒. "บุพกรรมของหญิงเปรต ๕๐๐ ตน/งูเหลือมใหญ่/พระราชา

"บุพกรรมของหญิงเปรต ๕๐๐ ตน/คนเลี้ยงหมูขาย"


.. ข้าพระองค์ผ่านมาอีก "ไปเห็นหญิงเปรตทั้งหลาย ๕๐๐ ตน อยู่ระหว่างภูเขานั้น ร่างกายเปลือยเปล่า ไม่มีผ้าปกปิดร่างกาย แต่มีอาหารทิพย์กินอยู่อิ่มหนำสำราญ จะไปไหนก็ไปไม่ได้ นี่เป็นเพราะบุพกรรมอันใดหนอ พระเจ้าข้า"

ดูก่อนอุบาสก "ครั้งก่อนโน้นศาสนาพระพุทธเจ้ากัสสโป เป็นหญิงชาวบ้านเลี้ยงหมูขาย" เอาหมูมาขังไว้ในคอก มันอ้วนพีดีแล้วก็ขายให้เขาเอาไปฆ่ากิน นั่นแหละ"กรรมเลี้ยงหมูขาย ขังไว้ในคอก จึงไปไหนก็ไม่ได้"

"แล้วโทษที่ไม่มีเสื้อผ้านุ่งนั้น ปราชญ์ป่าวร้องให้ทำบุญผ้าอาบน้ำฝน ผ้าจำนำพรรษา บุญกฐิน บุญบวช บุญผ้าป่าอะไร ก็ไม่ยินดีทั้งนั้น ไม่ให้ทานเลยนะ นั่นแหละ ไม่ได้ฝั่งทรัพย์ทั้งหลายเหล่านี้ไว้ สิ่งใดไม่ได้ทำไว้ก็ไม่มีนะ" นั่นแหละ จึงมีร่างกายเปลือยเปล่า

"ที่มีอาหารทิพย์นั้นกินอิ่มหนำสำราญนั้นก็เพราะ อยู่มากาลสมัยหนึ่งกษัตริย์ตรัสสั่งให้ พากันบำเพ็ญทาน ให้ทำสังฆทาน แก่พระสงฆ์องค์เจ้า ต่อแต่นั้นผลทานติดตามมา ให้ผลเป็นของทิพย์กินอิ่มหนำสำราญ" นั่นแหละ มีเท่านั้น สิ่งอื่นไม่ได้ทำไว้ก็ไม่มีนะ นี่โทษเลี้ยงหมูขาย ..

"บุพกรรมของสัปโป งูเหลือมใหญ่/เศรษฐีขี้เหนียว"

.. ต่อแต่นั้น ข้าพระองค์เดินผ่านทางมา "มาเห็นสัปโป งูเหลื่อมใหญ่ ขนดขดตัวอยู่จอมปลวกใหญ่แห่งหนึ่ง ไปไหนไม่ได้หลายร้อยปี ไม่ได้กินอาหารอะไร หิวโหยอยู่อย่างนั้น นี่เป็นพระกรรมเวรอันใดหนอ พระเจ้าข้า"

ดูก่อนอุบาสก "สัปโป งูเหลื่อมใหญ่ตัวนี้ แต่ปางก่อนโน้น เป็นเศรษฐีมีเงิน ๘๐ โกฏิ ตระหนี่ถี่เหนียว นักปราชญ์สมณชีพราหมณมาภิกขาจารบิณฑบาตรไม่ให้เลย ยาจกวณิพกมาขอก็ไม่ให้ บริโภคแต่ตนผู้เดียว แล้วเอาทองคำหนักแสนบาทใส่ไหไพใหญ่ ไปฝังไว้ที่จอมปลวกนั้น"

นั่นแหละ "จิตปฏิพัทธ์รักใคร่ พอดีสิ้นลม กรรมกับกิเลสพาไปเกิดเป็นงูเหลื่มใหญ่แล้วก็เลื้อยไปอยู่ที่จอมปลวกนั้น ความตระหนี่เหนียวแน่นผูกมัดรึงรัดให้ขนดขดตัวอยู่ที่จอมปลวกนั้น ไปไหนไม่ได้" อดอยากข้าวปลาอาหารอยู่อย่างนั้น ..

"บุพกรรมของพระราชา/กรรมเผาป่า"

.. ข้าพระองค์เดินผ่านทางมาอีก "มาเห็นกษัตริย์องค์หนึ่งไปตั้งพลับพลาอยู่นอกพระนคร พระนครถูกไฟไหม้ปีละครั้ง เป็นเพราะบาปอกุศลอันใดหนอ พระเจ้าข้า

ดูก่อน อุบาสก "กษัตริย์องค์นี้แต่ปางก่อนโน้น มีกรรม ๒ อย่าง" ครั้งศาสนาพระพุทธเจ้ากัสสโปโน้น "เป็นคนชาวบ้านชาวเมืองนะ ฤดูเดือน ๔ เดือน ๕ ไปเที่ยวป่านะ เอาไฟเผาป่ากอไม้แห้ง เผาสนุกสนาน ไฟไหม้สัตว์ทั้งหลาย โอ๊ย .. มดแดงส้มไหม้ตาย สัตว์ทั้งหลายเข้ารูไม่ทันก็ไหม้ตาย ไหม้หมดเต็มดงเต็มป่าอย่างนั้น นั่นแหละกรรมนั้นติดตามมาให้ผล"

ต่อมาก็พากันเลิกละการทำอย่างนั้น "แล้วมารับไตรสรณะคมน์และศีล ๕ ศีล ๘ ทาน ศีล ภาวนา ประจำชีวิตตลอดจนสิ้นชีวิตแล้วไปสวรรค์ ลงจากสวรรค์แล้วมาเกิดเป็นกษัตริย์ นั่นเพราะอำนาจของไตรสรณะคมน์และศีล ๕ ส่งผลมาอย่างนั้น"

"กรรมที่ ๒" ได้แก่ "ธิดาหญิงสาวทั้งคู่นะ ๒๐ - ๓๐ ปีแล้ว อยากได้สามี กามราคะมันตรอบงำ เผาผลาญให้เร่าร้อน อัคคีราคะมันร้อน กระทบกับกรรมเก่าของพ่อนั้นเป็นไฟไหม้พระนครทุกปีนะ" นี่ไฟของกามเป็นอย่างนั้น ..

(มีต่อ ตอนที่ ๑๓. "นายพราน ได้ครองราชเป็นกษัตริย์") 

5,617







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย