พึงเข้าไปตัดความตรึกและความรำคาญ ??
สำรวมจักษุตั้ง อินทรีย์
จิตมั่นกุศลมี ..เปี่ยมล้น
เจริญฌานตัดธุลี ...ทำป่วน วัฏฏา
ตบะฝึกฝนข้น ย่ำซ้ำมัคคญาณ
ฌานยังจิตตื่นตั้ง ดำรง
สติก่ออุเบกขาทรง ...ทั่วพร้อม
ตัดตรึกย่อมหมดลง ..ดับเหตุ กังวล
ความตรึกรำคาญน้อม ดับด้วยจตุตถฌาน.
ภิกษุพึงเป็นผู้สำรวมจักษุ
ไม่พึงเป็นผู้โลเลเพราะเท้า
พึงเป็นผู้ขวนขวายในฌาน
พึงเป็นผู้ตื่นอยู่มาก
พึงเป็นผู้ปรารภอุเบกขา มีจิตตั้งมั่น
พึงเข้าไปตัดความตรึก
และตัดธรรมที่อาศัยอยู่แห่งความตรึกและความรำคาญ
เจริญในธรรมครับ .
จิตตรึกจิตนึกเข้ม พัวพัน
รำลึกนึกแต่ขันธ์ .ค่ำเช้า
สักกายะทิฏฐิพัน .รัดจิต รัดกาย
ความโศกมาสู่เจ้า .เพราะข้อประมาทธรรม
จิตตรึกจิตนึกน้อม สัจจา
จดจ่อในธัมมา ....บทนั้น
อรหัตตมัคคา ธรรมบท ปัจจุบัน
ละโลภโกรธหลงกั้น ดับสิ้นโลกีย์
ดับจิตดับคิดเข้ม โลกีย์
ขันธ์ละหมดธุลี ..แต่งแต้ม
ดวงจิตผ่องโสภี .ขาวรอบ สว่างวาว
โลกุตตระแย้ม ..มัคคตั้งบรรลุญาณ
มัคคเหตุดับตรึกค้น อวิชชา
ละโลกโดยปัญญา .วิมุตินี้
วิมุติสุขพ้นวัฏฏา ....จิตแจ่ม สงัดกาม
บ่ ตรึก บ่ นึกลี้ หลุดพ้นโดยญาณ
เจริญในธรรมครับ.
# 1 / มหาราชันย์ / 20 ธ.ค. 2553 เวลา 19:56 น.
ชนเหล่าใดมีจิตสงบแล้ว
มีปัญญาเป็นเครื่องรักษาตน มีสติ มีฌาน
ไม่มีความเพ่งเล็งในกามทั้งหลาย
ย่อมเห็นแจ้งธรรมโดยชอบ
เป็นผู้ยินดีแล้วในความไม่ประมาท
มีปรกติเห็นภัยในความประมาท
ชนเหล่านั้นเป็นผู้ไม่ควรเพื่อความเสื่อมรอบ
ย่อมมีในที่ใกล้นิพพานเทียว
เจริญในธรรม เจ้าค่ะ

# 2 / หิ่งห้อยน้อย / 23 ธ.ค. 2553 เวลา 00:10 น.
เปิดอ่านหน้านี้ 5731