ธรรมสมาทาน ** ข้อยึดถือเป็นหลักในการประพฤติปฏิบัติ

 หิ่งห้อยน้อย   19 มิ.ย. 2555

 
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
                     ผู้ซึ่งไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง




ธรรมสมาทาน ....
ข้อยึดถือเป็นหลักในการประพฤติปฏิบัติ

๐ ธรรมสมาทาน หรือ คือปฏิบัติธรรม
ได้กระทำ คือ ทำกรรม ที่รังสรรค์
พระองค์ตรัส ให้ทราบ โดยทั่วกัน
สี่ อย่างนั้น พึงพิศ พินิจตรอง

๐ หนึ่ง...กระทำ ทุกสิ่ง ในกองทุกข์
ซึ่งไร้สุข เก็บทุกข์ ไว้ทั้งผอง
ทุกคืนค่ำ ร้องร่ำ น้ำตานอง
จิตหม่นหมอง มีแต่ทุกข์ ท่วมทับใจ

๐ สอง.. กระทำ ในสิ่งดี ที่ยากนัก
แต่มิพัก รีบเร่ง เพียรเข้าไว้
มีวิบาก เป็นสุข ในหทัย
กุศลวิบาก ส่งผลให้ ได้รับพลัน

๐ สาม ... กระทำ สิ่งไม่ดี ด้วยความสุข
เริงร่าสนุก ไร้ทุกข์ มีสุขสันต์
อกุศลวิบาก ย่อมให้ ผลโดยพลัน
เบื้องหน้านั้น รับทุกข์ ไร้สุขแทน

๐ สี่ ... กระทำ สิ่งดี ที่เปี่ยมสุข
ไร้ความทุกข์ ในหทัย ให้สุขแสน
กุศลวิบาก ส่งเบื้องหน้า พาสู่แดน
ที่สุขแสน ด้วยผล ตนกระทำ


เจริญในธรรม เจ้าค่ะ







ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
                     ผู้ซึ่งไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง




ธรรมสมาทาน ....
ข้อยึดถือเป็นหลักในการประพฤติปฏิบัติ

๐ แลนี่คือ ธรรมสมาทาน
สุขเพราะทาน ศีล ภาวนา พาสู่สัมม์
ยังเวียนอยู่ ในโลกียธรรม
ไม่ถลำ ลงลู่ สู่อบาย

๐ แม้สร้างกรรม ทำชั่ว อกุศล
ชั่วก็ดล ให้ทุกข์ สุขสลาย
กุศลกรรมบถสิบ อย่าดูดาย
เร่งขวนขวาย กันไว้ ใส่จินตนา

๐ แต่ละสมาทานนั้น เป็นอย่างไร
โปรดอดใจ รออ่าน กาลสิกขา
หิ่งห้อยน้อย จะอัญเชิญ พุทธวาจา
ทรงอรรถา อธิบาย มาร่ายกลอนฯ



เจริญในธรรม เจ้าค่ะ







ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
                     ผู้ซึ่งไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง




ปุจฉา ... ?? ...

ธรรมสมาทาน
ที่มีทุกข์ในปัจจุบัน และมีทุกข์เป็นวิบาก เป็นไฉน


*************************
...วิสัชนา....

๐ ผู้มัวเมา เขลา ในหลง คือ โมหะ
มิยอมละ จากจิต ปลิดมิจฉา
มีชีวิต ทุกข์ทนยาก ลำบากพา
เพราะทิฏฐิ เป็นมิจฉา พาเป็นไป

๐ ดั่งหยากเยื่อ หุ้มห่อดิน ไร้คุณค่า
ต่อเบื้องหน้า กายแตก มิแปลกไฉน
อบายภพ เป็นที่ตั้ง กายและใจ
พระองค์ตรัส สอนไว้ ต้องจดจำ

๐ เพราะปฏิบัติ อยู่ในทุกข์ ปลุกความหลง
จิตจึงจม มิมาสู่ ลู่ทางสัมม์
อกุศล จึงดล วิบากกรรม
เพราะถลำ เดินผิด ปลิดสัมมา

๐ สร้างความทุกข์ ให้กับตน จนสนิท
จิตจึงคิด ทรมานตน บนตัณหา
คิดว่าทุกข์ ต้องทนไป ไร้ภยา
เห็นทุกขา เป็นสัมมา พาสู่ตน

๐ แม้ไม่รู้ ในธรรมสมาทาน
ทุกข์จึงผลาญ ปัญญา พาสับสน
อวิชชา ที่นอน เนื่องกมล
จึงฉุดเจ้า มิพ้น ทางอบาย

๐ ธรรมที่ไม่ปรารถนา จึงงามยิ่ง
สัทธรรม แห่งความจริง ย่อมจางหาย
ความเสื่อมเข้า ครองจิต มิเว้นวาย
มาเถิดสหาย มาสิกขา ธรรมสมาทานฯ


เจริญในธรรม เจ้าค่ะ







ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
                     ผู้ซึ่งไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง




ปุจฉา ... ?? ...

ธรรมสมาทาน
ที่มีสุขในปัจจุบัน แต่มีทุกข์เป็นวิบาก เป็นไฉน


*************************
...วิสัชนา....

๐ จิตมัวเมา อยู่ใน กามตัณหา
ดั่งตบตา ดุจมุนี ผู้มีศีล
แหวกว่ายใน กามา เป็นอาจิณ
ดุจก้อนดิน หุ้มทองคำ นำบูชา

๐ สัมผัสนุ่ม แห่งนารี ปรนนิบัติ
กำซาบซัด น่ารักใคร่ น่าปรารถนา
คลุกเคล้ากาม ด่ำดื่ม ในวิญญา
ลุ่มหลงใน ปริพาชิกา ด้วยสุขจินต์

๐ ต่อเบื้องหน้า กายแตก แหลกสะบัด
ที่จะไป เด่นชัด มิต้องถวิล
อบายภพ สบแน่ แท้อาจินต์
เพราะราคิน ที่ก่อ ล่อให้เดิน

๐ นี่คือธรรมสมาทาน สราญด้วยสุข
แล้วได้ทุกข์ เป็นวิบาก ยากสรรเสริญ
ตรัสเตือนไว้ จึงยก ตกมาเตือน
อย่าทำเลือน คำสอน ของศาสดา

๐ แม้ไม่รู้ ในธรรมสมาทาน
ทุกข์จึงผลาญ เป็นทาส แห่งตัณหา
จิตจึงนอง เนื่องไป ในอวิชชา
จึงมิพ้น มรรคา แห่งอบาย

๐ ธรรมที่ไม่ปรารถนา จึงงามยิ่ง
สัทธรรม แห่งความจริง ย่อมจางหาย
ความเสื่อมเข้า ครองจิต มิเว้นวาย
มาเถิดสหาย สิกขาธรรม สมาทานฯ


เจริญในธรรม เจ้าค่ะ






 เปิดอ่านหน้านี้  5681 

  แสดงความคิดเห็น



จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย