กุสติณราช ๒ ประพันธ์โดย สืบ ธรรมไทย
จึงตริตรอง มองหา เทวาแถน
ในเมืองแมน แดนสรวง ล่วงเวหน
ผู้ใดควร นวลนาง อร่ามองค์
เป็นทายาท ชาติพงศ์ วงศ์ไพบูลย์
บัดนั้น วัชเรนทร์ เห็นนิมิต
ภาพอดิเทพครรไล ไปเบื้องสูง
ทิ้งดาวดึงส์ ขึ้นฟ้า ตุสิตาภูมิ
เนื่องบุญหนุน ผดุงส่ง องค์เทวา
ท้าวสุเรนทร์ เกรงไม่ทัน พลันเร่งรุด
พร้อมเทพบุตร ผุดผ่อง คล่องแกล้วกล้า
ยังสำนัก โพธิสัตว์ เลื่องศักดา
เพื่อสกัด ดักหน้า อมราไคล
ถึงวิมาน มัฆวาน พานรวบรัด
ไม่เอ่ยทัก เกริ่นนำ กันสงสัย
สั่งอมร พร้อมจรัล ยังกรุงไกร
จุติฟ้า ลาไป ในภูวดล
ณ แว่นแคว้น แดนดิน ถิ่นมนุษย์
เกิดเป็นบุตร สุทธิกานต์ ตามประสงค์
โอกกากราช ราชา ผู้อ่าองค์
เทวีพ้น มลทิน ศีลสมบูรณ์
โพธิสัตว์ สดับคำ มิทันแย้ง
พันตาแจ้ง แถนสนิท ติดตามหนุน
ลงกำเนิด เกิดข้าง พุทธางกูร
คอยเกื้อหนุน จุนเจือ เมื่อจำเป็น
จบความมี วัชรี ก็ตีจาก
ทิ้งเวหาส จากลา หาไม่เห็น
สองเทวัญ งันงง องค์วัชเรนทร์
มาหลีกเร้น เผ่นลับ คับข้องใจ
ฝ่ายองค์อินทร์ ทิ้งหาว ลงด้าวดิ่ง
ถึงแผ่นดิน ผินมา พาสงสัย
แปลงรูปลักษณ์ พักตร์เฒ่า เคราสั่นไกว
หัวเอียงส่าย กลายชรา พาพิกล
เดินยักแย่ ยักยัน มาวังไท้
หอบหายใจ ติดขัด อึดอัดสับสน
ถึงทวาร ลานวัง พลันก้มลง
โก่งก้นโค้ง ผายลมคั่ง ลั่นทั่วลาน
เหล่าบุรุษ กระจุกออ พอยินเสียง
ปู้ดป้าดเปรี้ยง เสียงท้องลั่น พลันแตกซ่าน
บ้างสำลัก กระอักไอ รากไหลยาน
บ้างถูกหาม ออกพ้น เป็นลมไป
หลากฉกรรจ์ หันมอง จ้องผู้เฒ่า
เย้ยหัวขาว คราวปู่ ดูไม่ไหว
อุตส่าห์ หอบสังขาร มาทำไม
เหตุไฉน ไม่อยู่เหย้า คอยเฝ้าเรือน
บ้างดรุณ หนุนตาม ประจานซ้ำ
พูดหยามหยัน ซ้ำมอง จ้องเชือดเฉือน
จวนกลายฟอน นอนไฟ ไยเลอะเลือน
แม้ย่างเยื้อง กระย่องกระแย่ง แรงไม่มี
เฒ่าจำแลง แสร้งโกรธ พิโรธขึง
หน้าบึ้งตึง ขมึงฟัง คำเสียดสี
พูดติดขัด ตะกุกตะกัก กลับทันที
เจ้า..พวก..นี้ นี่..เยาว์ เขลา..เหลือ..ทน
ขิง..จะ.เด็ด เผ็ด..จริง เพราะ..ยิ่งแก่
หมอ.มือ..แน่...แก่.วัย ไม่..ฉงน
ไม้..จะ..แกร่ง แก่น..แก่…แน่แท้...ทน
ชาย..เหมาะ..สม หญิง.งาม..นับ..ตาม..วัย
เหล่าบุรุษ สุดกลั้น ขันทั่วหน้า
ฟังวาจา ชราอ้าง ช่างเหลวไหล
เปรียบเทียบเอา ข้างสี ดีกว่าใคร
ชายใดไม่ เหมาะเท่า ขรัวเจ้าเอง
เพลานั้น วังทวาร บานเปิดอ้า
เสียงพูดจา เงียบพลัน หันมองเห็น
องค์เนื้อทอง มองเมิน เดินโคลงเคลง
ซ่อนทุกข์เข็ญ ลำเค็ญทน ตรมตรอมใน
ผ่านบุรุษ มากมาย ลายตาสบ
ไม่พานพบ สบใจ ชายคนไหน
ทั้งสูงต่ำ ดำด่าง แตกต่างวัย
ทั้งหล่องาม ทรามคละไป เรียงรายปน
วาสพเฒ่า เฝ้ามอง ใจตรองตริ
ตนมาติด ปิดหลัง ช่างไม่สม
ต้องยืนหน้า ฉุดพานาง ห่างผู้คน
ถึงจักพ้น คนรู้ นางอยู่ใด
จึงพินิจ คิดการ พานางหนี
เยี่ยงไรดี ที่คน ไม่สงสัย
นึกได้พลัน ตะโกนดัง ไปทันใด
เปิดทางให้ ขรัวเฒ่าไป ในบัดดล
สิ้นตะโกน เฒ่าทโมน ก็โจนฝ่า
ดุจอาชา แกร่งกล้า น่าฉงน
เหล่าบุรุษ กระจุกออ พอถูกชน
กระเด็นพ้น ล้มคลุก ฟุบหมอบดิน
ส่งเสียงคราง ลานตา หน้าถลอก
เพื่อนร้องสอบ ถามกัน หันมองสิ้น
ตกใจเสียง สำเนียงดัง ฟังได้ยิน
เห็นเพื่อนกลิ้ง ดินคราง พลางงงงัน
ฝ่ายชรา พริบตาผึง ถึงแถวหน้า
ทันเวลา กัญญา เบือนหน้าหัน
พอนางสบ เนตรพันตา ประหม่าพลัน
เฒ่าผลุนผลัน คว้าหัตถ์ ผละจากจร
เหล่าฉกรรจ์ มัวหันดู หมู่คนเจ็บ
ไม่ทันเอะ ใจมอง จ้องสมร
พอรู้ตัว ขรัวเฒ่าพา สุดาจร
จึงก้องร้อง โกรธา ดุด่าไป
แค้นเหลือล้น ต้องกล คนเจ้าเล่ห์
เฒ่าเสเพล เสแสร้ง แกล้งเหลวไหล
ทำงกเงิ่น เดินหอบ หลอกตายใจ
เผลอโลดไกล ไวนัก ลับจากจร
เพียงประเดี๋ยว เดียวเผ่น ไม่เห็นหลัง
องค์ร้อยชั่ง ช่างกระไร ไม่ทุบถอง
กลับตามชิด ติดไป ใจสมยอม
ทิ้งฉกรรจ์ ทั้งผอง คับข้องใจ
กล่าวถึงเฒ่า เครายาว สาวเท้าย่าง
จูงนงคราญ พรางหลีก ปลีกหนีหาย
ถึงเรือนชาน บ้านช่อง ต้องสบใจ
เชิญทรามวัย ด้วยใจกว้าง พักข้างบน
องค์ชายา หน้าตรอม ใจหมองเฉา
ยินผู้เฒ่า กล่าวคำ ฟังฉงน
นึกแปลกใจ เรือนใคร ใหญ่ชอบกล
ช่างสวยสม ภิรมย์รื่น ชื่นฤทัย
จึงเอ่ยถาม ความไป ใครเจ้าบ้าน
ช่างโอฬาร งามเขื่อง กว่าเรือนไหน
เฒ่าจำแลง แจงพลัน ในทันใด
ขอกลอยใจ คลายฟุ้งซ่าน บ้านพี่เอง
พี่อยู่เดียว เปลี่ยวกาย มาหลายหนาว
ขาดคนเคล้า เศร้าตรม ทนทุกข์เข็ญ
ราตรีค่ำ ระกำฝืน ตื่นลำเค็ญ
หวังจักเป็น เช่นเขา เคล้าคู่คลอ
ฟ้าเบื้องบน คงรู้ ให้คู่พี่
เป็นเทวี ศรีอร พร้อมห้องหอ
หวังให้ไท้ ดำรง พงศ์เหล่ากอ
นวลลออ อย่าแคลง แหนงหน่ายเลย
หลังขึ้นบน เชิญอนงค์ นั่งบนตั่ง
องค์เทวัญ พลันตรัส ดำรัสเผย
บอกบังอร นอนพัก หลับได้เลย
อย่าเอื้อนเอ่ย ถ้อยใด ให้ใจตรอม
จบวาจา อมรา มือคว้าจับ
รวบสองหัตถ์ พธู ทั้งคู่สอง
องค์นงนาฏ คาดไม่ถึง ตะลึงมอง
ไม่ทันร้อง คออ่อนพับ หลับทันใด
บัดนั้น เฒ่าจำแลง แปลงร่างกลับ
กลายรูปลักษณ์ พักตร์ผ่อง เรืองรองใส
เป็นราชา สุรารักษ์ งามจับใจ
อุ้มนงโพธ โอบไว้ เหาะไคลคลา
ผ่านสัตต บริภัณฑ์ เจ็ดบรรพต
เขาวงกต วกวน ยากค้นหา
สีทันดร ละอองพลิ้ว ริ้วงามตา
ข้ามสิเนรุ ทะลุฟ้า ลับตาไป
ถึงอัมพร นครหาว วาวปราสาท
งามพิลาส วาบเพชร เม็ดวาวใส
วาสพวาง นงคราญ นางทรามวัย
เหนือแท่นใหญ่ เลิศวิไล ในไพชยนต์
เสร็จเทวัญ พลันออก นอกปราสาท
แสนเอิบอาบ ปลาบปลื้ม ลืมทุกข์ถม
ประทับตั่ง นั่งสุข บัณฑุกัมพล
เหล่านางฟ้า ล้อมวง องค์สุเรนทร์
เมื่อนั้น สีลวดี นรีรัตน์
หลังฟื้นหลับ พักตื่น ขึ้นมองเห็น
ห้องมัฆวาน งามเหลือ เหนือกฎเกณฑ์
วิจิตรเด่น เห็นแผก ลายแปลกตา
จึงตรองตรึก นึกพิศ คิดเรื่องผ่าน
ถึงเรื่องบ้าน กว้างใหญ่ ให้กังขา
มาห้องหอ ห้องหับ งามจับตา
ทั่วแผ่นหล้า หาเทียบ จักเปรียบดัง
หรือชรา หน้าเครา ผู้เฒ่านี้
คือโกสีย์ เทวา ราชาสวรรค์
มาฉุดเรา พ้นทุกข์ หลุดบาปทัณฑ์
จึงงามขำ ถลันทาง ทวารา
พ้นทวาร บานเปิด องค์เฉิดโฉม
ให้งุนงง พิกลเห็น เป็นนักหนา
สิ่งรอบดู ประหลาด งามแปลกตา
ทั้งแผ่นดิน แผ่นฟ้า พาแปลกใจ
มวลไม้ดอก รอบข้าง ช่างพิลาส
สวยผุดผาด พาดคบ งดงามไฉน
ยืนต้นซุ้ม พุ่มกอ ลออวิไล
บานสดใส ไกวตาม ยามต้องลม
ฟ้าสดใส เลื่อมแปลก แดดไม่จัด
เย็นลมพัด สะบัดไกว ใจสุขสม
หอมผกา พาชื่น รื่นกมล
ทุกแห่งหน ชมเพลิน เจริญตา
ถัดวิมาน อำไพ ไม่ไกลนัก
ปาริฉัตร งามจับใจ ใบแน่นหนา
หญิงมากหลาย รายห้อม ล้อมเทวา
กลางสง่า นั่งเด่น เช่นราชัน
โฉมบังอร มองพักตร์ รัศมี
เทพบดี เขียววาม งามเฉิดฉัน
ให้มั่นใจ แน่ชัด มฆวัน
จึงงามขำ พลันก้าว เดินเข้าไป
ได้ระยะ ประมาณ นงคราญหยุด
ย่อกายคุก บังคม องค์ฤาสาย
เจ้าชั้นหาว ดาวดึงส์ หวังพึ่งภัย
วอนจอมไท้ ให้สงสาร ประทานพร
บัดนั้น...ศักรินทร์ ผินมา สบตาถี
สีลวดี เทวี ศรีสมร
พลางเอื้อนโอษฐ์ โปรดตรัส ทักบังอร
อรชร น้องยา อย่าทุกข์ใจ
น้องคงรู้ ผู้ชรา พามานี่
คือตัวพี่ มัฆวา เทวาใหญ่
หวังโฉมฉิน ศีลพิสุทธิ์ เป็นสุขใจ
น้องอยากได้ สิ่งใด ให้บอกมา
พี่เต็มใจ ให้พร น้องหนึ่งข้อ
หวังเจ้าพอ ฤทัย ในปรารถนา
ได้สมมาด ปราศทุกข์ สุขอุรา
ตัวพี่ยา ก็พา ผาสุกใจ
นงพะงา ตารื้น เต็มตื้นนัก
ฟังสักกะ ตรัสคำ พลันสดใส
บอกองค์อินทร์ ปิ่นสวรรค์ ไปทันใด
ขอโอรส หนึ่งองค์ให้ ไท้ราชา
เป็นทายาท สืบพงศ์ วงศ์กษัตริย์
ราษฏร์ประจักษ์ อึดอัดคลาย หายกังขา
ประเทศแคว้น แดนรัฐ วัฒนา
ปวงประชา หน้าใส ใจเบิกบาน
เทพราชัน ฟังคำ พลันตรัสเอ่ย
กระไรเลย ทรามเชย ภิเปรยหมาง
ขอหนึ่งองค์ พี่ขัดสน ฤาน้องนาง
ดูเหินห่าง อย่างไร ให้พิกล
เอาอย่างนี้ พี่ใจดี มีสามารถ
แสนเก่งกาจ มากฤทธิ์ พิศวง
จักให้โอรสน้อง เจ้าสององค์
น้องประสงค์ องค์ใดก่อน วอนบอกมา
หนึ่งวงพักตร์ ขัดตา ปัญญาเลิศ
ใจงามเพริศ ประเสริฐนัก ยากจักหา
อานุภาพ มากล้ำ คำพรรณา
ทั่วผืนหล้า หาเปรียบ เทียบราชัน
สองงามองค์ วงพักตร์ รูปลักษณ์เด่น
ใครได้เห็น เปรียบเช่น เทวาสวรรค์
ผิวผุดผาด ปลาบตา น่าอัศจรรย์
แต่เชาวน์นั้น สั้นนัก อับเหลือทน
นงพะงา นารี ศรีมหิ
ฟังอดิเทพบอก ตอบประสงค์
บุตรเลอเลิศ ปัญญา กว่าน่าชม
ให้ราษฎร์ไท้ ได้สม ดังจินดา