ค้นหาในเว็บไซต์ :

กุสติณราช ๓ ประพันธ์โดย สืบ ธรรมไทย

 pt  

สุรบดี ศรีสัค สดับความ
ตอบนงราม งามจิต ขนิษฐา
เป็นตามนั้น ดั่งคำ กัลยา
แถมพิณผ้า หญ้าทิพย์ ติดกายไป

แลสุดา ล้ำค่า ปาริฉัตร
โลกสดับ บ่ปะเห็น เป็นไฉน
อีกลูกจันทน์ พรรณอร่าม งามจับใจ
กำนัลให้ อ่อนไท้ ไปด้วยกัน

จบดำรัส มัฆวาน บันดาลฤทธิ์
ให้กนิษฐ์ หลับสนิท จิตเคลิ้มฝัน
แล้วอุ้มนง ลงฟ้า สู่หล้าพลัน
วางบนตั่ง บรรทม องค์ราชา

ก่อนไคลคลา อาลัย ในนงลักษณ์
ธ ยื่นหัตถ์ จับองค์ กนิษฐา
ลูบนาภี เทวี ศรีสุดา
แล้วเหาะฟ้า ลาลับ กลับอัมพร



เพลานั้น ณ สวรรค์ เบื้องชั้นหาว
มรุเจ้า เผ่าพุทธ ทุกข์ตรมหมอง
พอวชิร จับท้อง ขององค์อร
ให้รุ่มร้อน ดวงจิต จุติพลัน

เกิดแสงงาม กลางกาย ประกายจ้า
ออกกายา เทวาแถน แดนสวรรค์
พุ่งเวหาส วาบวาว สู่ด้าวพลัน
สถิตครรภ์ กันยา ชายาไท

บัดนั้น สีลวดี นารีรัตน์
พลันตื่นหลับ ประจักษ์องค์ ไม่สงสัย
ลุกขึ้นคลำ นาภี ปรีดิ์ปลื้มใจ
ได้ทายาท สมใจ ภูวดล

จึงเอนองค์ ลงนอน พักตร์ผ่องแผ้ว
ทุกข์สิ้นแล้ว แคล้วไกล ใจสุขสม
แนบข้างไท้ ใกล้ชิด นิทรารมณ์
นวลอนงค์ เหนื่อยหนัก จึงหลับไป



รุ่งทิพา ราชัน ตื่นฝันผึง
พรวดทะลึ่ง ทึ่งมอง อรหลับใหล
ให้ประหลาด วาบจิต พิศทรามวัย
เหตุไฉน บังอร นอนร่วมกัน

จึงตรัสเรียก เพรียกขาน ปลุกนางตื่น
ลืมตาฟื้น น้องยา แก้วตาฉัน
ตอบวจี พี่ไว อย่างไรกัน
ไฉนนั่น กัลยา มานอนเคียง

อรนุช สุดา ตาหลับใหล
กรรณแว่วใน ดำรัส สดับเสียง
องค์กษัตริย์ ตรัสถาม อยู่ข้างเตียง
จึงตื่นเมียง มองสบ ทรงภพพลัน

พอนเรนทร์ เห็นหน้า ชายารัก
อักอ่วนนัก พักตร์ฝืน ชื่นสุขสันต์
เหมือนดีใจ หมองทุกข์ คลุกเคล้ากัน
ยิ่งงามขำ นั่งจ้อง ต้องถอนใจ

ให้ลำบาก ยากเอ่ย ภิเปรยถาม
เรื่องติดตาม พราหมณ์เฒ่า เฝ้าสงสัย
ต้องระทม ตรมยาก มากเพียงใด
ภูวไนย ใคร่ฟัง คำกันยา

จึงเลียบเลียบ เคียงเคียง เลี่ยงเลี่ยงถาม
ต่อนงราม งามจิต ขนิษฐา
น้องมาถึง เมื่อใด นัยนา
ใครพามา วานบอก ตอบพี่ที

โฉมนงราม ฟังความ ภูบาลตรัส
จึงตอบกลับ มัฆวา พามานี่
เจ้าสวรรค์ ชั้นฟ้า สุขาวดี
ทรงปราณี อารีมาก ยากพรรณนา

ท่านพาขึ้น อัมพร นครหาว
วิมานพราว วาววับ งามหนักหนา
ดาวดึงส์ สวยซึ้ง ตรึงอุรา
เกินจักหา ใดเปรียบ เทียบไกวัล

ซ้ำปราณี มีใจ ห่วงใยน้อง
ทรงให้พร น้องคิด สัมฤทธิ์หวัง
แถมมอบดอก ปาริฉัตร บุษบัน
ของกำนัล ลูกจันทน์ผ้า หญ้าแพรกพิณ



บัดนั้น…โอกกากราช ราชา หน้าฉงน
ฟังพิกล นงเยาว์ กล่าวทุศีล
เห็นชรา พาออก นอกธานินทร์
ลับกายทิ้ง สิ้นรอย พลอยทุกข์ใจ

แต่พอกลับ ตรัสมา น่าเหลือเชื่อ
ประหลาดเหลือ เมื่อฟัง คำบอกไข
อ้างมหินทร์ ปิ่นหาว เจ้ากรุงไกร
อุ้มครรไล ไกวัล วังสุรินทร์

จึงถามพลัน กัญญา อย่าอสัตย์
เอ่ยดำรัส ตรัสเล่า เจ้าโฉมฉิน
ถึงเรื่องผ่าน พานพบ ประสบจริง
ให้พี่สิ้น สงสัย คลายสงกา

องค์โฉมศรี เทวี นารีรัตน์
ฟังดำรัส ตรัสย้ำ อย่ากังขา
น้องแถลง แจ้งตาม ความเป็นมา
ใช่วาจา เสแสร้ง แกล้งหลอกไท

ขอภูบาล พิจารณ์ กาลก่อนล่วง
น้องเคยลวง หลอกคำ ทรงธรรมไหม
ที่เล่าขาน ก็ตาม ความเป็นไป
ใช่เฉไฉ หมายกลบ หมกมลทิน

นฤบาล ฟังนาง ยืนกรานแจ้ง
ยังระแวง แคลงใจ ในโฉมฉิน
ถึงดำรัส ตรัสหนัก ถ้อยอรรถจริง
แต่ยังกริ่ง ยังสงสัย ไม่วายวาง

จึงนงนำ กำนัล ของขวัญได้
องค์อินทร์ให้ ก่อนกลับ เป็นหลักฐาน
ขึ้นมาเผย เฉลย แก่ภูบาล
ธ จึงผ่าน ข้ามไป ในกังวล

พอหลุดพ้น สงสัย ใจสุขสันต์
จึงถามพลัน ทันที ที่ประสงค์
ถึงทายาท สืบราชย์ มากร้อนรน
บรรลุสม ดังใจ ไหมงามงอน



เมื่อนั้น สีลวดี นารีรัตน์
ฟังดำรัส บพิตร อดิศร
พลันกระอัก กระอ่วนใจ ไม่สบมอง
หน้าแดงผ่อง ยองใย ให้ขวยอาย

ค่อยค่อยเผย เอ่ยคำ งึมงำตรัส
พอจักจับ ใจความ นางขยาย
ว่าสำเร็จ เสร็จลง ทรงผ่อนคลาย
ขอฤาสาย หายทุกข์ เป็นสุขเทอญ

พระทรงชัย ได้ฟัง พลันลิงโลด
ลืมตัวโอบ อ่อนไท้ ใจฮึกเหิม
หัวเราะร่า หน้าใส หาใดเกิน
รีบดำเนิน ตรงยัง ทวารา

พ้นทวาร ภูบาล พานรับสั่ง
เหล่ากำนัล เร่งพลัน ช่วยกันหา
เครื่องบำรุง พยุงครรภ์ ภรรยา
พร้อมหยูกยา สารพัด จัดมาไว

เผื่อน้องยา ข้าเป็นลม ได้ดมแก้
หรือยามแพ้ ท้องครรภ์ ทันแก้ไข
ชายาข้า ต้องเป็นสุข ไม่ทุกข์ใด
คลอดชายชาติอาชาไนย ให้ข้าชม

เสร็จกำนัล ธ พลัน สั่งอำมาตย์
ให้ประกาศ ราชโองการ ตามถนน
ทั่วทุกแห่ง แยกแพร่ง แหล่งชุมชน
ขอให้จง คลายทุกข์ เป็นสุขกัน

บัดนี้องค์ เทวี มีทายาท
ไว้สืบชาติ เผ่าไท มไหศวรรย์
สมมุ่งมาด ราษฎร์บพิตร ที่คิดกัน
จงสุขสันต์ บันเทิง เริงสราญ

เร่งประดับ จัดแต่ง แหล่งอาศัย
ให้วิไล ไฟตระการ ตามสถาน
มโหรี ปี่พาทย์ มากสำราญ
ต่อเนื่องกาล เจ็ดวันมี จากนี้ไป

เหล่าทวยราษฎร์ ทราบความ ตามประกาศ
ให้เอิบอาบ ซาบจิต คิดสมหมาย
เปล่งไชโย โห่ร้อง แซ่ซ้องไกล
ทุกข์มลาย หายวับ ในบัดดล

ฝ่ายจอมไท้ ใจโล่ง โปร่งเป็นสุข
ไม่ต้องผุด ลุกนั่ง ช่างสุขสม
หลับสนิท จิตคลาย หายกังวล
ยามบรรทม กรนลั่น สนั่นไป



คืนวันเลื่อน เคลื่อนไป ไม่หวนกลับ
เกิดสลับ ดับวน ไม่สงสัย
สุขไม่เที่ยง เวียนทุกข์ คลุกเคล้าไป
เกิดในใจ มนุษย์ ปุถุชน

จนวันครบ ทศมาส ทายาทคลอด
เสียงลั่นลอด ห้องดัง ฟังฉงน
เปี่ยมพลัง แกร่งกล้า น่าพิกล
เด็กมากล้น พ้นเปรียบ จักเทียบทัน

กุสราช ราชกุมาร นามเสนาะ
ฟังไพเราะ เพราะชื่อ สื่อสุขสันต์
แต่ขนง วงพักตร์ ไม่รับกัน
เป็นเพราะกรรม ทำผิด ติดตามองค์

พอพี่ยา พูดจา พาทีได้
องค์อ่อนไท้ คลอดบุตร สุดงามสม
ดั่งเทวัญ ชั้นฟ้า มาอีกองค์
ตามประสงค์ เทวะ มัฆวา

กุมารรอง น้องขวัญ ชยัมบดี
เปี่ยมราศี มีโอภาส ยากจักหา
ชายใดเปรียบ เทียบได้ ในพารา
แต่ปัญญา นั้นสั้น ช่างกระไร

ธ สองศรี พี่น้อง ปรองดองรัก
ทั่วมัลละ ประจักษ์ ภักดิ์เลื่อมใส
พี่รักน้อง น้องรักพี่ มีตอบไป
องค์จอมไท ให้คลาย ใจกังวล



จวบองค์ใหญ่ ล่วงวัย ได้สิบหก
ผ่านพิภพ ทบทวน ควรเหมาะสม
ให้ขึ้นครอง ผองหล้า ธราดล
หวังจักปลง ภาระ พักสบาย

จึงรับสั่ง ยังยาม ทวารเฝ้า
แจ้งแม่เจ้า เล่าความ ตามคิดหมาย
ให้มาร่วม ดำริ อธิบาย
ควรหรือไม่ อย่างไร ในกมล

ครั้นอ่อนไท้ ไปถึง ซึ่งตำหนัก
ธเรศตรัส ทันใด ใคร่ประสงค์
จักสละ สมบัติให้ บุตรใหญ่ตน
พร้อมสนม นงราม ตามต้องการ

แถมนางฟ้อน ยองใย วัยละอ่อน
ไว้ออดอ้อน นอนหลับ คอยขับขาน
แลรับใช้ ในยาม ตามต้องการ
ให้หวาบหวาม สราญรื่น ชื่นฤทัย

ฤาลูกรัก สมัครใคร ในแผ่นหล้า
เหล่าธิดา นารี ธานีไหน
สูงขาวคล้ำ ดำเหลือ ชาติเชื้อใด
พี่จะไป ขอให้ ได้เชยชม

องค์เทวี ศรีบังอร ไม่ข้องขัด
เห็นพ้องสรรพ ตรัสไป ให้เหมาะสม
แล้วขอองค์ ทรงกลับ ตำหนักตน
หวังบอกผล องค์ไท ให้บุตรฟัง



ถึงวังสั่ง กำนัล พลันเร่งแจ้ง
ถ้อยแถลง จอมไท มไหศวรรย์
เรื่องยกทรัพย์ สมบัติ กับบัลลังก์
พร้อมนางรำ นางใน ให้บุตรชาย

มหาสัตว์ สดับความ ตามดำรัส
ให้อึดอัด หนักจิต คิดมากหลาย
ด้วยไม่งาม ปานเปรียบ เทียบน้องชาย
หญิงไม่หมาย ชายทราม เคียงข้างตน

เห็นควรเรา อยู่เหย้า เฝ้าพ่อแม่
ยามท่านแก่ ยักแย่ยักยัน ความจำหลง
บำรุงใจ ให้คลาย หายทุกข์ทน
ให้ท่านพ้น ลำบาก จากสบาย

ส่งดุสิต บิดา มารดาแล้ว
หวังใจแผ้ว ผ่องผุด ทุกข์สลาย
ควรถือพรต งดกรรม นำอบาย
เข้าป่าใหญ่ ฝึกใจ ให้ใฝ่ธรรม

หลังพินิจ คิดจน ปลงใจแน่
จึงตรัสแก่ กำนัล ดังมุ่งหวัง
ขอพี่สาว กล่าวแจ้ง แถลงคำ
สิ่งเราตั้ง ใจมั่น ยังชนนี

บอกบุตรา หาใคร่ ในสมบัติ
หวังเพียงจัก พักอยู่ ดูสองศรี
ตราบชีวัน ท่านลับ ดับชีวี
หลังจากนี้ ขอลา เข้าป่าไพร

บวชอยู่ดง พงพี หนีวัฏฏะ
เพียรสละ ตัดทอน ถอนหลงใหล
ปลงปลิโพธ โกรธเคือง เครื่องทุกข์ใจ
จวบสลาย ตายพนา ป่าลำเนา

นางรับใช้ ได้ฟัง พลันก้มกราบ
แทบสองบาท จากไป ใจอับเฉา
ฟังโอรส ระทดใจ ให้ซึมเซา
แจ้งแม่เจ้า เล่าบอก ถอดเนื้อความ




ที่มา : พุทธชาดก

6







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย