เมื่อเราขยายขอบเขตของเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา จนไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ แล้วจะมีเรามีเขาได้อย่างไร
พวกแฟนฟุตบอลนั้นขึ้นชื่อลือชาเรื่องความเป็นไม้เบื่อไม้เมากับฝ่ายตรงข้าม เมื่อหลายปีก่อน มีกลุ่มนักวิจัยศึกษาเรื่องการมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และเห็นว่าแฟนบอลน่าจะเป็นกลุ่มทดลองได้ดี จึงขอให้แฟนบอลทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเขียนบรรยายความรักความผูกพันต่อทีมของตน หลังจากนั้นก็ให้กลุ่มหนึ่งเดินผ่านนักแสดงสวมเสื้อทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่กำลังนอนบิดตัวร้องครวญครางอยู่ และให้อีกกลุ่มหนึ่งเดินผ่านนักแสดงที่มีอาการคล้ายกันแต่สวมเสื้อทีมลิเวอร์พูล (ซึ่งเป็นศัตรูคู่อาฆาต) ผลปรากฏว่าเก้าในสิบคนจะเข้าไปช่วยแฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตัวปลอม และเพียงสามในสิบคนเข้าไปช่วยแฟนลิเวอร์พูล ฟังดูน่าเศร้า แต่ก็ไม่ผิดไปจากที่คาดเดาไว้
อย่างไรก็ตาม มีการวิจัยตามมาอีก เมื่อให้แฟนบอลเขียนบรรยายความรักความผูกพันต่อกีฬาฟุตบอล ไม่ใช่เขียนถึงทีมฟุตบอลที่ตนชื่นชอบ ผลการวิจัยแทบไม่พบความแตกต่างของทั้งสองกลุ่มเลย
อาจจะจริงอยู่ว่าการแบ่งพรรคแบ่งพวกเป็น เรา เป็น เขา นั้นฝังแน่นอยู่ในยีนส์ของเรามาแต่ต้น แต่สิ่งที่ไม่ได้กำหนดลงไปแน่นอนและอยู่ในความรับผิดชอบของเราแต่ละคน คือ การให้ความหมายของ เรา และ เขา หลักธรรมในพระพุทธศาสนาสอนให้เราเตือนตนเองเสมอว่า สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนเป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ครูบาอาจารย์สอนให้เราแผ่เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขาจนไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ เมื่อทำแบบนั้นแล้ว จะมี เขา ได้อย่างไร
ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร
แปลถอดความ โดย ปิยสีโลภิกขุ