วัดสร้อยทองเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ริมถนนประชาราษฎร์ สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับสะพานพระราม 6
ประวัติความเป็นมา:
• ชื่อเดิม "วัดซ่อนทอง": วัดสร้อยทองเดิมชื่อ "วัดซ่อนทอง" มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า ในสมัยท้าวอู่ทองอพยพหนีภัยสงคราม ได้นำทองคำจำนวนมากมาซ่อนไว้บริเวณที่ตั้งวัดนี้ จึงเป็นที่มาของชื่อเดิม
• การสร้าง: วัดสร้อยทองสร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2394 ไม่ปรากฏนามและประวัติของผู้สร้างที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าคงเป็นผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ (แพ บุนนาค) สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4
• การบูรณะครั้งใหญ่: ในปี พ.ศ. 2445-2447 ในสมัยหลวงปู่เบี้ยวเป็นเจ้าอาวาส วัดได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ โดยมีประชาชนชาวไทยและชาวญวนร่วมกันเป็นกำลังสำคัญ
• สงครามโลกครั้งที่ 2: ในวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2488 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานพระราม 6 ถูกทิ้งระเบิด ทำให้วัดสร้อยทองได้รับความเสียหายอย่างหนัก สิ่งที่เหลือรอดพ้นจากระเบิดอย่างปาฏิหาริย์คือ "หลวงพ่อเหลือ" หอระฆัง และเจดีย์ริมคลองบางซ่อน ทำให้หลวงพ่อเหลือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก
• การต่อต้านการยุบวัด: หลังสงคราม วัดได้รับความเสียหายอย่างมากจนกระทรวงศึกษาธิการเคยประกาศยุบวัดและต้องการที่ดินของวัดเพื่อเป็นโกดังสินค้าของรัฐ แต่ชาวบ้านในย่านบางซ่อน บางซื่อ บางโพ บางเขน ได้รวมตัวกันคัดค้านอย่างหนัก จนรัฐบาลต้องยกเลิกคำสั่งยุบวัด
• การบูรณะอีกครั้ง: ในปี พ.ศ. 2490 ชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างอาคารเสนาสนะขึ้นใหม่เพื่อใช้เป็นที่พักสงฆ์และปฏิบัติธรรม
• ยกฐานะเป็นพระอารามหลวง: ในวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2545 วัดสร้อยทองได้รับการยกฐานะจากวัดราษฎร์เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ และประกาศลงราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 18 กรกฎาคม ปีเดียวกัน
ปูชนียวัตถุและสิ่งสำคัญภายในวัด:
• หลวงพ่อเหลือ: พระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะทองเหลือง สร้างจากโลหะที่เหลือจากการหล่อพระประธานในปี พ.ศ. 2445 ภายในเกศบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระอรหันต์ 5 พระองค์ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ
• พระมหาธาตุเจดีย์ศรีสร้อยทอง: เจดีย์องค์ใหญ่สีเหลืองทองอร่ามงดงาม สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2548 ภายในมีพระพุทธรูปให้กราบไหว้ และชั้นบนมีพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเกศาธาตุประดิษฐานอยู่
• สำนักเรียนพระปริยัติธรรม: วัดสร้อยทองมีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนนักธรรม-บาลี และเป็นสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกใหญ่ที่มีผู้สอบได้อันดับต้นๆ ของประเทศไทยในแต่ละปี
ปัจจุบัน วัดสร้อยทองเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางจากความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โบราณวัตถุ และการเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระปริยัติธรรม
• พระมหาธาตุเจดีย์ศรีสร้อยทอง: เจดีย์องค์ใหญ่สีเหลืองทองอร่ามงดงาม สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2548 ภายในมีพระพุทธรูปให้กราบไหว้ และชั้นบนมีพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเกศาธาตุประดิษฐานอยู่
• พระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเกศาธาตุ
• หลวงพ่อเหลือ: พระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะทองเหลือง สร้างจากโลหะที่เหลือจากการหล่อพระประธานในปี พ.ศ. 2445 ภายในเกศบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระอรหันต์ 5 พระองค์ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ
• พระอุโบสถ
• ภายในพระอุโบสถ มีพระพุทธรูปปางมารวิชัย เป็นพระประธาน
• สำนักเรียนพระปริยัติธรรม: วัดสร้อยทองมีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนนักธรรม-บาลี และเป็นสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกใหญ่ที่มีผู้สอบได้อันดับต้นๆ ของประเทศไทยในแต่ละปี
