วัดมงคลนิมิตร ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวภูเก็ตมาอย่างยาวนาน มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจดังนี้:
ชื่อเดิมและจุดเริ่มต้น:
• เดิมวัดมงคลนิมิตรมีชื่อว่า "วัดกลาง" เนื่องจากเป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ตในอดีต
• สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2423 ในสมัยที่เกาะถลางยังเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลภูเก็ต สันนิษฐานว่าเจ้าเมืองเป็นผู้สร้าง
• ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา (เขตที่ดินที่พระราชทานให้แก่สงฆ์เพื่อใช้สร้างพระอุโบสถ) ประมาณปี พ.ศ. 2428
บทบาทสำคัญในอดีต:
• วัดมงคลนิมิตรไม่ได้เป็นเพียงศาสนสถานสำหรับการประกอบกิจของสงฆ์และทำบุญของพุทธศาสนิกชนเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการบริหารราชการของเมืองภูเก็ตในอดีตด้วย
• เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญต่างๆ ของบ้านเมือง เช่น:
o พิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา: ซึ่งเป็นพิธีที่ข้าราชการกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์
o พิธีน้ำมุรธาภิเษก: ในรัชกาลที่ 4, รัชกาลที่ 6, และรัชกาลที่ 7
o การประกอบรัฐพิธีและราชพิธีต่างๆ
• นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งศึกษาทั้งทางธรรมและทางโลกของชาวเมืองภูเก็ต
การเปลี่ยนชื่อและยกฐานะ:
• ต่อมา ทางราชการและประชาชนทั่วไปถือว่าวัดนี้เป็นวัดที่นำความเป็นมงคลมาสู่เมืองภูเก็ต จึงได้มีการขอเปลี่ยนนามวัดใหม่ว่า "วัดมงคลนิมิตร"
• ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ในปี พ.ศ. 2496
• แม้จะมีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดมงคลนิมิตร แต่ชาวบ้านทั่วไปก็ยังคงนิยมเรียกติดปากว่า "วัดกลาง" อยู่มาก
สิ่งสำคัญภายในวัด:
• พระอุโบสถ: สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2450 และได้รับการปฏิสังขรณ์ใหม่ในปี พ.ศ. 2492 เป็นพระอุโบสถขนาดใหญ่ทรงไทย ใช้อิฐโบราณแผ่นใหญ่ เสาสี่เหลี่ยม ผนังก่ออิฐถือปูนแบบโบราณ มีลวดลายแกะสลักที่บานประตูและเขียนลายรดน้ำที่บานหน้าต่าง
• หลวงพ่อขาว: เป็นพระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนองค์ใหญ่ ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 6 ศอกคืบ สูง ชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อขาว" เนื่องจากแต่เดิมองค์พระฉาบปูนขาวทั้งองค์ ปัจจุบันมีการสร้างชุกชีและลงรักปิดทอง เป็นพระพุทธรูปทองคำที่สวยงาม
• พระพุทธรูปทองคำ: ประดิษฐานอยู่ในศาลาการเปรียญ เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยสุโขทัย มีอายุประมาณ 700 ปี เดิมถูกพอกด้วยปูนไว้เพื่อป้องกันการโจรกรรม จนกระทั่งปี พ.ศ. 2500 จึงได้มีการกะเทาะปูนออกและพบว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำทั้งองค์
ปัจจุบัน วัดมงคลนิมิตรยังคงเป็นวัดสำคัญและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวภูเก็ต เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนสามารถเข้าเยี่ยมชมความงดงามทางสถาปัตยกรรมและสัมผัสถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของวัดได้
• พระอุโบสถสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2450 และได้ปฏิสังขรณ์ใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2492 เป็นพระอุโบสถขนาดใหญ่ทรงไทย ใช้อิฐโบราณแผ่นใหญ่ เสาสี่เหลี่ยม ผนังก่ออิฐถือปูนแบบโบราณ มีลวดลายแกะสลักที่บานประตูและเขียนลายรดน้ำที่บานหน้าต่าง
• พระวิหารสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2450 เช่นเดียวกันมีลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนแบบจีน (ปัจจุบันใช้เป็นตึกห้องสมุด)
• หมู่พระเจดีย์ 11 องค์ อยู่ทางทิศตะวันออกหน้าพระอุโบสถ มีพระเจดีย์องค์ใหญ่อยู่ตรงกลาง ส่วนพระเจดีย์องค์เล็ก ๆ อีก 10 องค์ เรียงรายอยู่รอบพระเจดีย์องค์ใหญ่ สร้างขึ้นในสมัยที่พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี (ไข่) เป็นเจ้าอาวาสและกล่าวกันว่าท่านได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาจากประเทศศรีลังกาบรรจุไว้ในพระเจดีย์และได้จัดงานฉลองเป็นการใหญ่ในปี ร.ศ. 122 (พ.ศ. 2446)
• พระพุทธรูปทองคำประดิษฐานอยู่ในศาลาการเปรียญ เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยสุโขทัยมีอายุประมาณ 700 ปี เดิมพระพุทธรูปองค์นี้ถูกพอกไว้ด้วยปูน สันนิษฐานว่า นายช่างคงกลัวจะถูกโจรกรรมจึงเอาปูนพอกไว้แล้วแต่งพระพักตร์ให้ดูน่ากลัวจน กระทั่งรัฐบาลได้จัดฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ทางวัดมงคลนิมิตรได้ทำการปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปต่าง ๆ ภายในวัดบังเอิญพระพุทธรูปองค์นี้มีรอยปูนกะเทาะออกเล็กน้อยทำให้เห็นทองคำที่องค์พระทางวัดจึงได้กะเทาะปูนออกปรากฏเป็นพระพุทธรูปทองคำทั้งองค์
• กุฏิสงฆ์ที่สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมจีน-โปรตุเกส และศาลาแม่ปล้องสร้างเมื่อ พ.ศ. 2471 เป็นศาลาที่มีหลังคาทรงปั้นหยามุงด้วยกระเบื้องจีน มีเสาก่ออิฐขนาดใหญ่รับรองโครงสร้างหลังคาโดยหลังคายกระดับ 2 ชั้น