ค้นหาในเว็บไซต์ :

วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี





วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์ : ธรรมยุตินิกาย
วันตั้งวัด : พ.ศ. 2449
วันรับวิสุงคามสีมา : พ.ศ. 2466


วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอุดรธานีมายาวนาน มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจดังนี้:

การก่อสร้างและชื่อวัด:

• ผู้สร้าง: วัดโพธิสมภรณ์ สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ช่วงปลายรัชกาลที่ 5 ประมาณปี พ.ศ. 2449 โดยมหาอำมาตย์ตรีพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร (โพธิ์ เนติโพธิ์) สมุหเทศาภิบาลมณฑลอุดร ท่านได้ชักชวนราษฎรในหมู่บ้านหมากแข้ง (ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน) ให้ร่วมกันถากถางป่า สร้างกุฏิ ศาลาโรงธรรม เพื่อใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลและประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาของข้าราชบริพาร
• ชื่อเดิม: ในช่วงแรก ชาวบ้านนิยมเรียกวัดนี้ว่า "วัดใหม่"
• การประทานนาม: ต่อมา มหาอำมาตย์ตรีพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร (โพธิ์ เนติโพธิ์) ได้นำความขึ้นกราบทูลขอชื่อวัดต่อ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพฯ ซึ่งพระองค์ได้ทรงประทานนามว่า "วัดโพธิสมภรณ์" เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร (โพธิ์ เนติโพธิ์) ผู้สร้างวัดแห่งนี้

เหตุการณ์สำคัญและสิ่งศักดิ์สิทธิ์:
• เจ้าอาวาสรูปแรก: พระครูธรรมวินยานุยุต (หนู) เจ้าคณะเมืองอุดรธานี ได้รับอาราธนามาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดโพธิสมภรณ์
• การสร้างโบสถ์: ในปี พ.ศ. 2450 ได้เริ่มมีการสร้างโบสถ์ก่ออิฐโบกปูน โดยมีพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตรเป็นช่างผู้ควบคุมการก่อสร้าง และใช้ผู้ต้องขังจากเรือนความเป็นแรงงาน แต่ท่านก็ได้ถึงแก่อนิจกรรมในปี พ.ศ. 2455 ก่อนที่โบสถ์จะสร้างเสร็จ
• การสานต่อและขยายอาณาเขต: ในปี พ.ศ. 2465 หลังจากที่พระครูธรรมวินยานุยุต (หนู) มรณภาพลง มหาเสวกโท พระยาราชนุกูล (อวบ เปาโรหิตย์) อุปราชมณฑลภาคอีสาน และสมุหเทศาภิบาลมณฑลอุดรธานี (ภายหลังเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นพระยามุขมนตรี ศรีสมุหพระนครบาล) ได้สานต่อการสร้างโบสถ์จนแล้วเสร็จ และยังได้ขยายอาณาเขตวัด พร้อมสร้างเสนาสนะเพิ่มเติมอีกหลายหลัง
• การยกฐานะเป็นพระอารามหลวง: วัดโพธิสมภรณ์ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงในปี พ.ศ. 2507
• ต้นพระศรีมหาโพธิ์: มีต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่รัฐบาลประเทศศรีลังกามอบให้รัฐบาลไทย ในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และได้นำมาปลูกไว้ที่วัดนี้เมื่อปี พ.ศ. 2494 หน่อต้นนี้เป็นหน่อจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ศรีลังกา ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากต้นโพธิ์ตรัสรู้ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย
• รอยพระพุทธบาทจำลอง: ทำด้วยศิลาแลง อายุประมาณ 100 ปีเศษ (หรือบางข้อมูลระบุ 200 ปีเศษ) มีลวดลายพระธรรมจักรและสัญลักษณ์มงคล 108 ประการอย่างชัดเจน มณฑปที่ประดิษฐานจะเปิดเฉพาะวันพระและวันสำคัญทางศาสนา
• ตู้พระไตรปิฎกลายทองลดน้ำ: สร้างในพระนามเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ เมื่อปี พ.ศ. 2472
• พระบรมธาตุธรรมเจดีย์: เป็นเจดีย์พิพิธภัณฑ์ 3 ชั้น มีสัณฐานรูปแปดเหลี่ยม สูง 38 เมตร ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะผสมผสานสัญลักษณ์ของอีสานตอนบนและสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก บรรจุคำสั่งสอนพระพุทธเจ้า และบรรจุอัฐิธาตุพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต นอกจากนี้ยังน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา
• พระพุทธรูปสำคัญ: ภายในวัดมีพระพุทธรูปทองสำริด ปางมารวิชัย (หลวงพ่อพระพุทธรัศมี) หน้าตักกว้าง 1.55 เมตร สูง 2.30 เมตร อายุประมาณ 600 ปี และพระพุทธรูปศิลาแลงศิลปะลพบุรีอายุประมาณ 1,300 ปี
• วัดสายกรรมฐาน: วัดโพธิสมภรณ์ยังเป็นวัดสายกรรมฐานที่สำคัญ ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์บูรพาจารย์ฝ่ายกรรมฐานในชั้นที่ 2 จัดแสดงภาพจิตรกรรมฝาผนัง เรื่องราวปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งสะท้อนภาพประวัติศาสตร์ของพระสงฆ์ในวัดที่มุ่งศึกษากรรมฐานและปฏิบัติตามครูอาจารย์

วัดโพธิสมภรณ์จึงเป็นวัดที่สำคัญและเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวอุดรธานี และเป็นสถานที่ศึกษาประวัติศาสตร์พุทธศาสนาและศิลปะกรรมที่ทรงคุณค่าอีกด้วย


- สิ่งสำคัญคู่วัด -
• พระพุทธรูปทองสำริด ปางมารวิชัย (หลวงพ่อพระพุทธรัศมี) •


• พระอุโบสถ


• พระประธานในพระอุโบสถ


• พระบรมธาตุธรรมเจดีย์




6







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย