พระพุทธศาสนาสอนให้บุคคลละกิเลส : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

 จำปาพร  

 พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


เหตุที่แนะนำตักเตือนนี่ก็เพื่อส่งเสริมกำลังศรัทธากำลังใจให้เข้มแข็งขึ้นเท่านั้นดอก ธรรมดาจิตใจนี่ถ้าหากว่า ไม่ได้รับการส่งเสริมบ้าง ไม่มีผู้สนับสนุนบ้าง ลำพังแต่ความคิดนึกรู้สึกของตัวผู้เดียว มันไม่เข้มแข็งพอก็มี เออ เป็นอย่างนั้น ทีนี้เมื่อได้รับการสนับสนุนจากผู้อื่นเข้าไป มันก็ทำให้จิตใจรื่นเริงบังเทิงขึ้นหรือมีศรัทธาแรงกล้าขึ้นกว่าเดิมในอันที่จะปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ยิ่งๆขึ้นไป


เพราะว่า คำสอนของพระพุทธเจ้านี่ไม่เหมือนอย่างคำสอนของลัทธิอื่นใด ศาสนาอื่นใด คำสอนของพระองค์สอนให้ผู้ประพฤติปฏิบัติตามละกิเลสไปโดยลำดับจนหมดสิ้น ศาสนาอื่นไม่มีที่จะสอนให้คนละกิเลสให้หมดสิ้นไป และก็ไม่มีใครจะไปละกิเลสให้หมดสิ้นไปในลัทธิอื่น ศาสนาอื่น มันเป็นอย่างนั้น มีแต่ในพระพุทธศาสนานี้เท่านั้น ท่านผู้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ทำอาสวะกิเลสให้หมดไปสิ้นไปได้จริงๆ ดังในครั้งพุทธกาลนั่นแหละพระอรหันต์มีอยู่มากมายก่ายกอง ผู้ทำอาสวะกิเลสให้หมดสิ้นไปโดยประการทั้งปวง มีอยู่มากมาย ท่านเหล่านั้นบวชเข้ามาแล้ว ทำอาสวะกิเลสให้หมดสิ้นไปแล้ว ท่านก็อยู่ประพฤติพรหมจรรย์ไปจนตลอดชีวิต


อันนั้นล่ะเป็นสักขีพยานว่า ในพระพุทธศาสนานี้ ข้อปฏิบัติในพระพุทธศาสนานี้ทำบุคคลผู้ปฏิบัติตามให้สิ้นจากอาสวะกิเลสบาปอธรรมได้จริงๆ ถ้าหากว่าละไม่ได้หมดก็เรียกว่า ละได้เป็นบางส่วน ละได้โดยเอกเทศ อย่างนี้นะ คำว่า "ละได้โดยเอกเทศ" หมายเอา พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี นี่ท่านเหล่านี้ท่านละกิเลสขาดจากสันดานโดยเอกเทศ ยังไม่สิ้นเชิง มีแต่พระอรหันต์เท่านั้นท่านละกิเลสได้โดยสิ้นเชิง มันเป็นขั้นตอนไปอย่างนี้การละกิเลสตัณหาในพุทธศาสนานี้


ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
"พระพุทธเจ้าสอนให้ละกิเลสให้หมดสิ้น" 

5,581







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย