"ปัญญา กับความรู้คาดคะเน"

 วิริยะ12  

 "ปัญญา กับความรู้คาดคะเน"

" .. คนทั้งหลาย "รู้ธรรมทั้งหลายแล้วไม่พ้นทุกข์" ทั้งกลับเป็นเสี้ยนหนามยอกแทงตนและผู้อื่นเข้าด้วยซ้ำ "แต่พระพุทธเจ้าแลสาวกรู้ธรรมแล้วพ้นทุกข์ไปเลย พร้อม ๆ กับความรู้ธรรมเกิดขึ้น" เพราะเหตุใดระหว่างคนทั้งสองสามจำพวกนี้จึงต่างกันเล่า

ก็เพราะ "ความรู้เกิดจากปัจจุบันจิต อันกลายเป็นปัญญาไปในตัว กับความรู้คาดคะเน(สัญญา) มันต่างกันราวฟ้ากับแผ่นดินนั่นเอง" จึงสามารถแปรคนทั้งสองจำพวกให้ต่างกัน เหตุที่ความรู้ที่เป็นปัจจุบันจิตจะเกิดได้ ก็ต้องพิจารณาปัจจุบันธรรมคือกายกับจิตนี้เอง "เพราะกาย-จิต เป็นสถานที่สั่งสมกิเลสและเป็นสถานที่ถอดถอนกิเลสแลกองทุกข์ทั้งมวล"

ฉะนั้น เราควรตั้งจิตไว้โดยทำนองที่ว่า "ให้จิตอยู่กับกายจิตจริง ๆ จนเรียกปัจจุบันได้เต็มที่" แล้วกระแสของปัจจุบันจิตจะกระจายแสงสว่าง คือปัญญาออกตามอาการของกายแลอาการของจิตโดยรอบคอบ "จากนั้นก็จะได้เห็นทุกสิ่งทั้งที่เป็นคุณเป็นโทษ ปรากฏด้วยปัญญาอันชอบแท้" ตลอดกลางวัน กลางคืน ยืน เดิน นั่ง นอน จะเรียกว่าฟังธรรมทุกเวลาก็ได้ .. "

"ธัมมะในลิขิต"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
 

http://www.luangta.com/upload/ThammaBook/content/20040116153537.doc

5,585







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย