"ปัญญาศึกษาสมาธิ" (พระอาจารย์ทูล ขิปปปญโญ)

 วิริยะ12  

.
 "ปัญญาศึกษาสมาธิ"

" .. การทำสมาธิให้จิตสงบจึงเป็นดาบสองคม ถ้าทำสมาธิที่มีสติปัญญารอบรู้ ก็จะเป็นผลดี ถ้าไม่มีสติปัญญารอบรู้เป็นองค์ประกอบ การทำสมาธิก็จะมีแต่ผลเสียฝ่ายเดียว จึงเรียกว่า "มิจฉาสมาธิ" มีความสงบที่ผิด ตั้งมั่นที่ผิดไปตลอด

เมื่อทำสมาธิเป็นมิจฉาผิดพลาดไป จะไม่รู้ตัวเองได้เลย จะยังมีความเข้าใจว่าเราทำถูกโดยถ่ายเดียว การทำสมาธิให้จิตสงบจึงเป็นหลักสากล ไม่ได้ผูกขาดกับศาสนาหนึ่งศาสนาใด แม้ผู้ไม่นับถือศาสนาอะไรก็ทำสมาธิให้จิตสงบได้ เมื่อจิตสงบแล้ว ก็จะเป็นมิจฉาสมาธิเป็นส่วนใหญ่

ส่วนสัมมาสมาธิ ความสงบที่ถูกต้องชอบธรรมนี้ จะมีเฉพาะผู้ปฏิบัติเป็น "สัมมาทิฎฐิ" มีความเห็นชอบเป็นพื้นฐานเท่านั้น การทำสมาธิเป็นอุบายให้จิตพักผ่อนชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น ตามปกติ จิตจะคิดในเรื่องต่าง ๆ ไม่มีขอบเขต คิดทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดีแทบไม่มีเวลาพักผ่อน

จึงกลายเป็นจิตฟุ้งซ่านบ้าง จิตฟุ้งไปตามสังขารบ้าง จิตไม่อยู่กับตัวเอง จะคิดส่งออกข้างนอกอยู่ตลอดเวลา เว้นเสียในช่วงที่นอนหลับไปเท่านั้น เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วก็คิดต่อไป ฉะนั้น การทำสมาธิจึงเป็นเพียงให้จิตได้พักให้มีกำลังใจ เพื่อจะได้ใช้ปัญญาพิจารณาในธรรมต่อไป .. "

พระอาจารย์ทูล ขิปปปญโญ
วัดป่าบ้านค้อ ต. เขือน้ำ อ. บ้านผือ จ. อุดรธานี 

5,624







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย