พระอุโบสถ ก่อสร้างด้วยการก่ออิฐถือปูน ขนาดกว้าว 12.15 เมตร ยาว 22 เมตร สูง 30 เมตร หลังคาลาด 4 ชั้น เครื่องบนเป็นไม้มุงด้วยกระเบื้องดินเผา ฐานมีลวดลายบัวโค้งเป็นฐานสำเภา เรียกตามภาษาช่างว่า โค้งปากตะเภา สองข้างผนังชั้นนอกมีคันทวยข้างละ 6 ตัว รวม 12 ตัว ทำเป็นรูปนาคแกะสลักไม้ประดับด้วยกระจกสี ประตูทางเข้าด้านหน้ามี 3 ประตู ด้านหลังมี 2 ประตู อกเลาประตูแกะสลักลวดลายไทย มีหน้าต่งด้านละ 5 ช่อง รวม 10 ช่อง
ส่วนด้านบนของพระอุโบสถ ด้านทิศตะวันออกหน้าบันไม้แกะสลักรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ อย่ตรงกลางรอบข้างเป็นลายก้านขด ทิศตะวันตกหน้าบันเป็นรูปพระนารายณ์ทางครุฒวาหนะท่านกลางก้านลายขด มีช่อฟ้าใบระกาและหางหงส์ประดับด้วยกระจกสี
พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย (หลวงพ่อโตอู่ทอง) ขนาดหน้าตัก กว้าง 6 ศอก ประทับนั่งขัดสมาธิราบพระหัตถ์แสดงปางมารวิชัย พระพักตร์ค่อนข้างเหลี่ยม ลงรักปิดทอง เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนปลายถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถเขียนบรรยายพระพุทธประวัติ จำนวน 14 ภาพ
โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม-แผนกบาลี-แผนกสามัญ
บันไดทางขึ้นพระอุโบสถทั้งสองด้านทำบันไดนาคขอมขึ้นใหม่ ซึ่งดูแล้วยังขัดกัน เพราะเป็นศิลปกรรมคนละสมัย
ด้านหน้าพระอุโบสถ
พระเจดีย์
ซุ้มประตูวัด
พระเจดีย์ ด้านหลังพระอุโบสถ
หอระฆัง
พระบรมสารีริกธาตุ
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายกประทานพระบรมสารีริกธาตุแก่พระราชสีมาภรณ์ เมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อประดิษฐานไว้ที่บุษบก ภายในพระอุโบสถวัดบึง