ค้นหาในเว็บไซต์ :

ระวังตัวเองหลอกตัวเอง เสียหายกว่าผู้อื่นหลอกตั้งร้อยเท่าพันเท่า แต่ก็ไม่มีใครระวัง

 Webmaster  

วันนี้เป็นวัน April Fools Day หรือ "วันเมษาหน้าโง่" หลายคนอาจระมัดระวังตัวตลอดทั้งวันในการรับฟังข่าวสาร เพราะอาจมีข่าวปลอมหรือเรื่องล้อเล่นที่ถูกปล่อยออกมาเพื่อความสนุกสนาน

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองลึกลงไปในชีวิตประจำวัน เรากลับพบว่าการหลอกลวงที่สร้างความเสียหายนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่วันนี้ แต่เกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งจากกลุ่มมิจฉาชีพ แก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และอื่นๆ

แต่ยังมีสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้น คือ #การหลอกตัวเอง

ในยุคที่เราระวังคนอื่นหลอกเรา แต่กลับละเลยสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุด นั่นคือ การที่เรา "หลอกตัวเอง" อย่างไม่รู้ตัว

การหลอกตัวเองนี้อาจจะส่งผลร้ายแรงที่สุดต่อชีวิตเรา เพราะผู้ที่หลอกอยู่ใกล้ตัวเราที่สุด มีโอกาสหลอกเราได้ตลอดเวลาและเราจะหลงเชื่อง่ายสุด เพราะมันเกิดขึ้นจากความคิดและเหตุผลที่เราสร้างขึ้นมาเอง บ่อยครั้งเราอาจไม่ทันสังเกตว่าเรากำลังหลอกตัวเองอยู่ จนกระทั่งมันส่งผลกระทบต่อชีวิตอย่างรุนแรง

ตัวอย่างของการหลอกตัวเอง เช่น:

การปฏิเสธความจริงที่ไม่อยากยอมรับ เช่น การบอกตัวเองว่า "ฉันไม่ได้ติดโทรศัพท์" ทั้งที่ความจริงแล้วมันส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและประสิทธิภาพในการทำงาน

การสร้างภาพลวงตาเกี่ยวกับความสำเร็จหรือความสุข เช่น การโพสต์ภาพชีวิตที่ดูสมบูรณ์แบบบนโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากผู้อื่น แม้ว่าภายในใจจะรู้สึกว่างเปล่าหรือไม่พอใจในชีวิตจริง

การหาเหตุผลสนับสนุนเพื่อทำในสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วว่าไม่ดีต่อชีวิต เช่น การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซื้อของไม่จำเป็น แล้วหลอกตัวเองว่า "ของมันต้องมี", หรือกินเหล้าเพื่อเข้าสังคม, การพนัน, บุหรี่ ฯลฯ

อ.พุทธทาสเตือนไว้ว่า

" ไปชำระสะสางไอ้เรื่องความหลอกตัวเอง โกหกตัวเองนี้กันเสียทุก ๆ ท่าน ทุก ๆ คน...มันมีความเหลวไหล ไม่จริงต่อตัวเอง หลอกตัวเองมาอย่างไรบ้าง...

ด้วยอำนาจของกิเลสซึ่งเป็นเหตุให้แก้ตัว ให้บิดพลิ้ว มันก็ฉลาดในการที่จะหาเหตุผลมาแก้ตัว หลอกตัวเองแล้วก็มันก็หาเหตุผลมาให้เห็นว่าไม่ได้หลอกตัวเอง

นี่คืออุปสรรค นี่คือข้าศึก คือพญามาร คือศัตรูข้อแรก ต้องรบให้มันชนะ ต้องฆ่ามันให้ตายด้วยธรรมะที่เรียกว่า #สัจจะ "

หมายเหตุ: สัจจะเป็น 1 ใน 4 ข้อ ของฆราวาสธรรม ที่แปลว่า ธรรมะสำหรับผู้ครองเรือน ซึ่งจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตทางโลก

อ.พุทธทาสอธิบายว่า สัจจะเป็นจุดตั้งต้นในการเดินทางของชีวิต

"พระพุทธเจ้าท่านยกเอาข้อสัจจะนี้ มาเป็นข้อแรก เป็นจุดตั้งต้น ว่าเราจะต้องซื่อสัตย์ต่ออุดมคติ ต่อหลักการ จะต้องอธิษฐาน รวบรวมกำลังใจทั้งหมดทั้งสิ้นมาตั้งสัจจะ"

"สัจจะทั้งหลายมารวมอยู่ที่มีสัจจะต่อตัวเอง"

"จริงต่อตัวเอง จริงต่อผู้อื่น จริงต่อเวลา จริงต่อหน้าที่การงาน จริงต่ออุดมคติของความเป็นมนุษย์หรือเกียรติของความเป็นมนุษย์"

"ซึ่งมันค่อนข้างจะยากน่ะ เพราะว่าเมื่อตัวเองเป็นตัวเองแล้วใครจะมาด่า มาว่า มาเตือน มันก็ไม่มี มันก็เลยโกหกตัวเองได้ง่าย

ถ้าเราโกหกผู้อื่นเพื่อนมันก็ด่าเอา หรือว่าไม่ตรงต่อเวลาเราก็ไปไม่ทันรถไฟอย่างนี้เป็นต้น นี้มันมีไอ้เหล่านี้มันบังคับ แต่ว่าไอ้เรื่องตรงต่อตัวเองสิมันไม่มีอะไรมาบังคับมัน"

"แม้แต่จะละการสูบบุหรี่คุณก็ทำไม่ได้ เพราะมีการโกหกตัวเอง"

"อย่าลืมว่าถ้าโง่แล้วมันก็จะต้องถูกหลอก หลอกได้แม้กระทั่งตัวเอง หลอกตัวเองไม่ต้องมีใครมาหลอก แต่ที่เห็นๆ กันอยู่ก็ คือ การนิยมที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามความ สมมติ ว่าสวย ว่างาม ว่าดี ว่าอย่างนั้น อย่างนี้"

การหลอกตัวเองอาจเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการพัฒนาตนเอง เพราะเรามักจะให้เหตุผลสนับสนุนสิ่งที่เราต้องการเชื่อหรืออยากทำ แม้ว่ามันจะไม่ถูกต้องก็ตาม

การฝึกฝนสัจจะต่อตัวเองนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เราก้าวผ่านการหลอกตัวเอง และพบกับความจริงที่แท้จริง เพื่อการพัฒนาชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง

#พัฒนาตน #เลิกหลอกตัวเอง #สวนโมกข์กรุงเทพ #สร้างสรรค์สังคมรมณีย์

9







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย