ธรรมะของพระพุทธเจ้าของเราอยู่ที่ไหน

 ลูกโป่ง  




ธรรมะของพระพุทธเจ้าของเราอยู่ที่ไหน
อยู่ที่ความรู้ความเห็นในใจของเราอย่างนี้
รู้ได้ทุกคน เห็นได้ทุกคน
ไม่ใช่อยู่ในตำรา ไม่ต้องไปเรียนให้มันมาก
พิจารณาเดี๋ยวนี้ก็เห็นที่อาตมาพูด ก็เห็นได้ทุกคน
เพราะมันอยู่ในใจทุกคน
แต่ก่อนนี้เราต้องการเลี้ยงกิเลสไว้
ให้รู้จักกิเลส อย่าให้มันมากวนเรา
อันนี้ เป็นอันหนึ่งที่ยังไม่บังเกิด
ให้ทำให้เกิดขึ้น ที่เกิดแล้วก็ทำให้มากขึ้น
ทีนี้ข้อปฏิบัติต่อไปคือ การรักษาศีล
ศีลนี้จะดูแลธรรมะเจริญขึ้นเหมือนพ่อแม่กับลูก
การรักษาศีลคือ การเว้นการเบียดเบียน
และทำการเกื้อกูลช่วยเหลือ อย่างต่ำนี้ให้มี ๕ ข้อคือ


ข้อ ๑ ให้เมตตาสัตว์และมนุษย์ทั้งหมด
ไม่ให้ทำร้ายเบียดเบียน ตลอดถึงการฆ่า


ข้อ ๒ ให้มีความสุจริต อย่าไปข้ามสิทธิ์ของกันและกัน
พูดง่ายๆ ก็คือไม่ให้ขโมยของกันนั่นเอง


ข้อ ๓ ให้รู้จักประมาณในกามบริโภค
อยู่ในฆราวาสวิสัยก็ต้องมีครอบครัว มีพ่อบ้านแม่บ้าน
แต่ถ้ารู้จักประมาณก็ปฏิบัติธรรมะได้
ให้รู้จักพ่อบ้านของเรา รู้จักแม่บ้านของเราเท่านั้น
ให้รู้จักประมาณ อย่าทำเกินประมาณ ให้มีขอบเขต
แต่โดยมากคนจะไม่มีขอบเขตเสียด้วยนะ
บางทีมีพ่อบ้านคนเดียวก็ไม่พอ มีสองคนบ้าง
บางทีมีแม่บ้านคนเดียวก็ไม่พอ
ต้องมีสามด้วยอย่างนี้ก็มี
อาตมาว่า คนเดียวก็กินไม่หมดแล้ว
จะมีไปสองคนสามคนนี่ มันเรื่องสกปรกทั้งนั้นนี่
อย่างนี้ต้องพยายามชำระ พยายามฝึกใจ
ให้มันรู้จักประมาณ ความรู้จักประมาณนี้ มันบริสุทธิ์ดี
ที่ไม่รู้จักประมาณนี่ มันไม่มีขอบเขต
ถึงได้อาหารเอร็ดอร่อยอย่างนี้
อย่าไปนึกถึงความเอร็ดอร่อยมันมาก
ให้รู้จักท้องของเรา ให้รู้จักประมาณ
ถ้าเรากินมากก็ลำบากเหมือนกัน ให้รู้จักประมาณ
ความรู้จักประมาณนี่ดีที่สุด
ให้มีแม่บ้านคนเดียวก็พอแล้ว
มีพ่อบ้านคนเดียวก็พอแล้ว
มีสองมีสามเกินขอบเขตแล้ววุ่นวาย


ข้อ ๔ คือความซื่อสัตย์
นี้ก็เป็นเครื่องกำกับกิเลสเราเหมือนกัน
เป็นคนตรงมีสัจจะ เป็นคนซื่อสัตย์


ข้อ ๕ เป็นคนที่ไม่ดื่มสุราน้ำเมา
อย่างนี้ก็ให้รู้จักประมาณ ให้เลิกเสียก็ดี
คนเราเมามัวก็มากแล้ว เมาลูกเมาหลาน
เมาทรัพย์สมบัติหลายอย่าง มันก็พอแล้ว
ยิ่งเอาเหล้ามากินเข้าไปอีก มันก็มืดเท่านั้นแหละ
อันนี้บริษัททั้งหลายไม่รู้ ดูตัวเราเอง
ถ้าหากว่ามันมาก ใครมีมากก็พยายามค่อยๆ
ปัดเป่ามัน ออกไป ปัดเป่ามันออกไปให้หมด


ต้องขอโทษด้วยนะ พูดด้วยความปรารถนาดีนะ
อยากจะให้ดีอยากจะให้รู้จัก
เราต้องรู้จักว่า อะไรเป็นอะไรที่เรามาทุกวันนี้
อะไรมันกดดันอยู่เพราะอะไร
การกระทำเหล่านั้นจึงกดดันเรา
ทำดีมันก็ได้ดี ทำชั่วมันก็ได้ชั่ว อันนี้เป็นเหตุ
อันนี้ขอฝากไว้นะ
ขอโทษด้วยนะ ไม่อยากจะพูดหรอก
แต่พระพุทธเจ้าบอกให้พูด
ทั้งหมดที่พูดมานี้เป็นเครื่องอุปกรณ์อันหนึ่ง
ให้เราปฏิบัติกันดูนะ


ทีนี้เมื่อมีศีลบริสุทธิ์ดีแล้ว มีความรักกัน ซื่อสัตย์
ก็จะมีความสุข ความเดือดร้อนไม่มีนะ
เมื่อความเดือดร้อนไม่มีแล้ว
เพราะไม่เคยเบียดเบียนซึ่งกันและกัน
อย่างนี้ก็มีความสุข นี่คืออยู่ในเมืองสวรรค์
แล้วสบาย กินก็สบาย นอนก็สบาย มีความสุข
สุขเกิดจากศีล
เมื่อมีการกระทำอย่างนี้ก็เป็นเหตุให้อันนี้เกิดขึ้นมา
ละความชั่วเช่นนี้เป็นกฎอันหนึ่ง
เพื่อความดีนี้เกิดขึ้นมา
นี่ถ้าเรามีศีลอย่างนี้ ความชั่วหนีไป ความสุขเกิดขึ้นมา
นี่ละเกิดเพราะการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ


::: หลวงพ่อชา สุภัทโท

5,573







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย