หลายคนมัวแต่นึกวิตกกับสิ่งที่แทบจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย จนไม่มีเวลาหรือแรงกายแรงใจจะเตรียมรับมือกับปัญหาเบื้องหน้าที่ไม่มีใครเลี่ยงพ้น นั่นคือ ความแก่ ความเจ็บ และความตาย
ขอให้ลองนึกถึงศิลปินที่กำลังวาดภาพ จิตรกรจะร่างภาพทิวทัศน์ในจินตนาการของเขาไว้คร่าวๆ แล้วจึงค่อยเติมรายละเอียดลงไป ภาพที่ปรากฏบ้างก็ดูคุ้นตา บ้างก็ผิดเพี้ยนไปจากพืชและสัตว์ที่เรารู้จัก บ้างก็ดูพิลึกพิสดาร แต่ยิ่งแต่งเติมสีสันและรายละเอียดลงไปเรื่อยๆ ภาพทิวทัศน์นั้นก็จะยิ่งดูเป็นจริงเป็นจังขึ้นทุกที
ยามที่เรานึกวิตกกังวลไปสารพัด ตัวเราก็ไม่ต่างจากจิตรกรคนนี้ เสียแต่ว่าเราไม่ได้วาดภาพทิวทัศน์ แต่เราเติมสีสันและรายละเอียดลงในภาพอนาคตที่เราร่างขึ้น ยิ่งแต่งเติมความหวั่นวิตกเข้าไปเท่าใด ภาพอนาคตในใจซึ่งเราเชื่อว่ากำลังรออยู่นั้นก็ยิ่งเป็นจริงเป็นจังมากขึ้นทุกที แต่แท้จริงแล้ว มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่อาจใกล้เคียงกับความจริง หลายสิ่งผิดเพี้ยนไป และบางสิ่งก็ประหลาดพิสดารเกินจริง
หลายสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลยอาจดูเหมือนว่าน่าจะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก เพราะจิตที่เฝ้ากังวลคิดปรุงแต่งไปในลักษณะนั้น หลายคนมัวแต่นึกวิตกกับสิ่งที่แทบจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย จนไม่มีเวลาหรือแรงกายแรงใจจะเตรียมรับมือกับปัญหาเบื้องหน้าที่ไม่มีใครเลี่ยงพ้น นั่นคือ ความแก่ ความเจ็บ และความตาย ความวิตกกังวลไม่ใช่การเตรียมพร้อม อันที่จริงวิตกจริตเป็นสิ่งตรงข้ามกับการเตรียมพร้อมเลย
ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร
แปลถอดความ โดย ศิษย์ทีมสื่อดิจิทัลฯ