01-007 ดูความเกิด-ดับเป็นปัจจุบันชั่วขณะ-ฟังธรรมพร้อมปฏิบัติ หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี นำเจริญภาวนา




01-007 ดูความเกิด-ดับเป็นปัจจุบันชั่วขณะ-ฟังธรรมพร้อมปฏิบัติ

หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี นำเจริญภาวนา

เสียงธรรมนี้เหมาะสำหรับฟังขณะเจริญภาวนา จะมีเสียงเงียบยาวเป็นช่วงๆ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้พิจารณา สังเกตสภาวธธรรมต่างๆ เป็นปัจจุบันตามความเป็นจริง โดยมีเสียงท่านเจ้าคุณพระภาวนาเขมคุณ วิ. (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี) พระวิปัสสนาจารย์ เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนั่งปฏิบัติกรรมฐานและสอนนำลูกศิษย์ไปด้วย

คลิปนี้พระอาจารย์ท่านสอนให้ปรับกายให้คลี่คลาย ปรับใจให้ปล่อยวาง ตามดูรู้เท่าทันพิจารณากายในกายอยู่....
มีลมหายใจเข้า-ลมหายใจออก
หายใจเข้ามีสติระลึกรู้-หายใจออกมีสติระลึกรู้
ตามดูรู้เท่าทันว่าลมหายใจเข้า-ลมหายใจออก
จะหายใจยาว-จะหายใจสั้น ก็ปล่อยตามสภาพ
ระลึกรู้อยู่ทุกขณะหายใจเข้า-ออก
เริ่มหายใจเข้า สูดลมหายใจเข้า-เริ่มหายใจออก สูดลมหายใจออก
สังเกตจังหวะการสับเปลี่ยนของลมหายใจ ปรับผ่อน ผ่อนระงับลมหายใจเข้า-ออก ให้ลมสละสลวย
หายใจอย่างไรที่สบายก็หายใจอย่างนั้น
หายใจให้เต็มปอด
หายใจเข้าเต็มปอด สังเกตท้องจะพองขึ้น-หายใจออกก็คลายออกช้าๆ จนหมด ผ่อนจนลมหมด

สังเกตดูความสบาย-ความไม่สบาย
การหายใจเข้าออก จะมีเวทนาอยู่
เวลาหายใจเข้า-ออกมีความกระเพื่อม มีความสะเทือน มีความตึง ความหย่อน ไหวๆ ที่ทรวงอกหน้าท้อง
มีความเย็นๆ ผิวกายมีความเย็น มีความสบาย มีความไหวๆ

ใส่ใจสังเกต ระลึกรู้เมื่อมันเกิด
จิตใจผู้รู้ผู้ดู
ใจที่รู้...ใจที่ดู...เป็นอย่างไร สบายใจ-ไม่สบายใจ ใจมีราคะ-ก็รู้ว่ามีราคะ
ใจมีโทสะ-ก็รู้ว่ามีโทสะ
ใจมีความหลง ฟุ้งซ่าน มีสมาธิ-ไม่มีสมาธิ

สังเกตว่ามีการจดจ้องเพ่งเล็งอยู่
ลดการจดจ้อง ปรับออกคลายออก ลดการเพ่งดู

ให้รับรู้อยู่เบาๆ สบายๆ เหมือนไม่ใช้ตาดู
ใช้ใจรู้ อย่าเอาตาเนื้อไปเพ่งดู
ใช้ตารู้-ใช้ตาใจ คือความรู้สึก
ใช้ความรู้สึกดูความรู้สึก
วางสายตาเป็นปกติ ใช้ใจรู้ ใจไปรับรู้ในความรู้สึก รู้ได้ทั่วตัว-ทั่วกาย-ทั่วใจ
เย็นตรงไหนรู้....
ตึง แข็ง อ่อน ร้อน เย็น หนาว ปวดเมื่อย ชา....
ความสบาย-ความไม่สบาย ความรู้สึกวิตก วิจารณ์ วิจัย สงสัย พอใจ ชอบ-ไม่ชอบ สงบ-ไม่สงบ ขุ่นมัวผ่องใส....
เหล่านี้เป็นสภาวธรรมทั้งหมด

แล้วแต่ว่ามีสภาธรรมะอะไรปรากฏ ก็ระลึกรู้ไป ปรากฏในใจอย่างไรก็รู้ไปอย่างนั้น
สบายกายรู้สึกเย็น
ใจรู้สึกขุ่นมัวผ่องใส
ได้ยินเสียง
หายใจเข้ารู้สึก
หายใจออกรู้สึก
มีตรึก มีนึก มีความรู้สึกปรุงแต่งในใจ
ระลึกรู้ลงไป ปล่อยวางไป

วางใจไม่เอาอะไรทั้งหมด ไม่เอาอะไรไม่ว่าอะไร สิ่งใดจะเป็นไปก็เป็นไป
ไม่ว่าอะไ ร ไม่จงใจจัดแจง ปล่อยการแสดงของเขาเอง
ทำหน้าที่เพียงผู้รู้ผู้ดูอย่างวางเฉยอยู่
จะแสดงฉากละครอย่างไรก็แล้วแต่เขา
ใจฟุ้ง ใจไม่สงบก็แล้วแต่เขา
มีปล่อยวางอยู่
เห็นความเกิด-ความดับของสภาวะธรรม
รูปก็ดับไป ดับไป
นามก็ดับไป ดับไป
เกิดแล้วดับไป ปรากฏแล้วหมดไป
ความตึง ความหย่อน ความไหวมี แต่ปรากฏแล้วหมดไป
ความสบาย-ความไม่สบาย ก็เปลี่ยนแปลงไปหมด
จิตใจที่รู้..ที่รู้สึก..ก็เปลี่ยนแปลง
ความนึกคิด.... คิดแล้วก็ดับไป
เสียงได้ยิน...ได้ยิน.... ก็ดับไป

สติที่ระลึกรู้.... ระลึกแล้วก็ดับไป.... ระลึกแล้วก็ดับไป....

เห็นความหมดไปสิ้นไปด้วยใจที่ปล่อยวาง
พยายามระลึกให้เป็นปัจจุบัน.... ปัจจุบันสั้นๆ ชั่วขณะที่ปรากฏ
เวลาคิดไปสู่อดีต-อนาคต ก็รู้ที่ความคิด
รู้ความคิด...ความคิดก็ดับไป

หมายเหตุ: ข้างต้นนี้เป็นคำสอนพระอาจารย์ในคลิปนี้ แต่ไม่ใช่การถอดคำสอนคำต่อคำ

ขอเชิญรับฟังทั้งคลิปเต็มพร้อมปฏิบัติ
ขอให้ท่านเจริญในธรรม
อนุโมทนาสาธุค่ะ

ต้นฉบับเสียงธรรมนี้ได้รับความเมตตาอนุญาตจากพระอาจารย์ หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี ให้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแผ่เป็นธรรมทานได้

เสียงนกและเสียงอื่นๆ ในคลิปนี้เป็นเสียงธรรมชาติในขณะที่พระอาจารย์กำลังนำปฏิบัติกรรมฐาน ผู้จัดทำไม่ได้เพิ่มเติมเสียงอื่นใดแต่อย่างใด
https://www.youtube.com/@WirangrongDabbaransi

ที่มา : https://www.youtube.com/@WirangrongDabbaransi

3,201






จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย