วิปัสสนา

เรื่องที่ ๓๘ : ๑๑ วันธรรมบรรยาย ( ๒๔ )
โดย : ท่านอาจารย์สัตยา นารายัน โกเอ็นก้า


...เราจะเห็นได้ฃัดว่า ความทุกข์ในชีวิต อันได้แก่ ความเจ็บป่วย ความแก่ ความตาย ความ เจ็บปวดทางกายและใจ ล้วนแต่เป็นผลมาจาก ชาติ คือการเกิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วอะไร เป็นเหตุแห่งชาติ หรือการเกิด ?

แน่นอนที่สุด เหตุที่เห็นได้ชัดก็คือ การอยู่ร่วมทางกายภาพของบิดาและมารดาแต่ในแง่ที่กว้าง กว่านั้น การเกิดมีขึ้น เนื่องจากกระบวนการที่ไม่มีวันสิ้นสุดของ ภพที่ทั่วทั้ง จักรวาล จะต้อง เข้าไปเกี่ยวข้อง แม้แต่เมื่อถึงเวลาตาย กระบวนการนี้ก็ยังไม่จบ แม้ร่างกายจะเน่าเปื่อยแตก สลายไป แต่วิญญาณก็จะไปเชื่อมโยงกับโครงสร้างทางรูปอย่างอื่น เกิดเป็นภพใหม่ต่อไปก็ เหตุใดเล่าจึงมีกระบวนการของภพ ?

พระพุทธองค์ทรงเห็นแจ้งว่า สาเหตุก็คือ อุปาทาน ที่เราสร้างขึ้น และเนื่องจากอุปาทานเรา จึงมีการปรุงแต่ง ที่เรียกว่า สังขาร ขึ้นมา สังขาร หรือ การปรุงแต่งนี้จะฝังรากลึก สะสมอยู่ ภายในจิต เมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิต สังขาร หรือการปรุงแต่งที่สะสมไว้อันใดอันหนึ่ง ก็จะ ผุดขึ้นมาภายในจิตใจ และผลักดันวิญญาณให้ดำเนินต่อไป อะไรเป็นสาเหตุของอุปาทาน หรือ ความยึดมั่นถือมั่น ?

พระองค์ทรงพบว่า อุปาทานเกิดจากการปรุงแต่งของ ตัณหา ซึ่งได้แก่ ความชอบหรือความ ไม่ชอบ ที่เกิดขึ้นมาในชั่วขณะะหนึ่ง ความชอบ จะพัฒนาต่อไปเป็นโลภะความไม่ชอบ จะ พัฒนาต่อไปเป็น โทสะ และทั้งสองนี้จะกลายเป็นอุปาทานทำไมจึงเกิดการปรุงแต่งของตัณหา ซึ่งได้แก่ ความชอบและความไม่ชอบขึ้นมาในชั่วขณะนั้น ? ทุกคนที่ได้พิจารณาตนเอง จะพบ ว่า การปรุงแต่งเหล่านี้ เกิดขึ้นเนื่องจาก เวทนา หรือความรู้สึกทางกาย เมื่อมีสุขเวทนาเกิดขึ้น คนก็จะชอบ และจะรักษาความรู้สึกนี้ไว้แล้วอยากจะเพิ่มเติมให้มีมากขึ้น หากมีทุกขเวทนา เกิดขึ้นคนก็จะไม่ชอบ และต้องการที่จะขจัดมันออกไป ทำไมจึงเกิดมีเวทนาเหล่านี้เล่า ?

แน่นอนที่สุด ความรู้สึกเหล่านี้ เกิดจาก ผัสสะ หรือสัมผัส ระหว่างประสาทสัมผัสทางใดทาง หนึ่งกับวัตถุที่สัมพันธ์กับประสาทสัมผัสส่วนนั้น เช่น ตากับรูป หูกับเสียง จมูกกับกลิ่น ลิ้นกับ รส กายกับโผฏฐัพพะ หรือสิ่งที่ถูกต้องกายจิตกับธรรมารมณ์ อันได้แก่ ความคิดหรือจินตนา การ ทันทีที่มีผัสสะ หรือสัมผัสเกิดขึ้น เวทนาหรือความรู้สึก ก็จะเกิดขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะ เป็นความรู้สึกที่พอใจ ซึ่งเรียกว่า สุขเวทนา ก็ตาม หรือความรู้สึกที่ไม่น่าพอใจ ซึ่งเรียกว่า ทุกข เวทนา ก็ตาม ตลอดจนความรู้สึกกลางๆ ซึ่งเรียกว่า อทุกขมสุขเวทนาหรืออุเบกขาเวทนา ก็ตาม อะไรเป็นสาเหตุของผัสสะ ?

จักรวาลทั่วทั้งจักรวาล เต็มไปด้วยสิ่งที่ประสาทสามารถสัมผัสได้ เมื่อใดที่สฬายตนะ อันได้ แก่ประสาทสัมผัสทั้ง 6 คือทางกาย 5 มี ตา หู จมูก ลิ้น ผิวกาย กับทางจิต 1 ทำงาน ประสาท ตามลักษณะของมัน แล้วทำไม สฬายตนะหรือประสาทสัมผัสเหล่านี้จึงมีอยู่ ? ก็เป็นเพราะว่า ประสาทสัมผัสเป็นส่วนที่ติดอยู่กับจิตและกาย หรือนามกับรูปอย่างแยกออกไม่ได้ เมื่อชีวิต เกิดขึ้น ประสาทสัมผัสเหล่านี้ก็เกิดขึ้นด้วย แล้วทำไมชีวิตจึงเกิดขึ้น ? และทำไมจิตและกาย หรือนามและรูป จึงเกิดขึ้น ? ทั้งนี้ก็เพราะกระแสแห่ง วิญญาณ ที่ดำเนินไป จากขณะหนึ่งไป ยังอีกขณะหนึ่ง จากชีวิตนี้ไปยังชีวิตหน้า ทำไมวิญญาณจึงดำเนินไป ? พระพุทธเจ้าทรงพบ ว่า วิญญาณเกิดขึ้น เนื่องจาก สังขาร หรือการปรุงแต่งของจิต การปรุงแต่งทุกครั้ง จะก่อ ให้เกิดแรงผลักดัน ให้วิญญาณดำเนินต่อไป โดยมีการปรุงแต่งเป็นตัวกระตุ้น แล้วทำไมการ ปรุงแต่งจึงเกิดขึ้น ?

การปรุงแต่งเกิดขึ้นจาก อวิชชา ความไม่รู้จริง คนเราไม่รู้ว่าตนเองทำอะไรอยู่ไม่รู้ว่ามีการ ปรุงแต่งอย่างไร ดังนั้น คนเราจึงยังสร้างสังขารต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังมีอวิชชาอยู่ ความ ทุกข์ก็จะยังคงมีอยู่ ต้นตอของความทุกข์ คือ อวิชชา หรือความไม่รู้จริงนี่เอง ซึ่งจะก่อให้เกิด เหตุการณ์ต่างๆ เป็นลูกโซ่ อันนี้เป็นต้นเหตุให้เกิดความทุกข์ สุมอยู่ภายในตนเอง ถ้าหากขจัด อวิชชาออกไปเสียได้ ความทุกข์ก็จะหมดไป




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย