คนมันโง่มาตั้งแต่เกิด ถ้าสวยมันก็ชอบ ถ้าไม่สวยมันก็ไม่ชอบ นั่นคือไม่มีปัญญา ถ้ามีปัญญาก็จะรู้ว่า สวยก็เช่นนั้นเอง ไม่สวยก็เช่นนั้นเอง


มีรูปสวยมากระทบตา ก็มีสติระลึกได้ทันควัน นำเอาปัญญามาพิจารณาอยู่ว่า โอ้! นี่ก็เป็นแต่เพียงรูปเท่านั้น ๆ และรูปที่มีความสวย อยู่ตามธรรมดา ซึ่งมีความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาอยู่ในความสวยนั้น
ก็ไม่หลงใหลในความสวยของรูปนั้น แม้จะเป็นที่สบายแก่ตา เพราะความสวย ก็รู้สึกว่า รู้แจ้งว่า เป็นสักว่าเป็นเช่นนั้น สบายแก่ตา ก็เป็นสักว่าเวทนา ไม่มีความเป็นตัวตน อะไรที่ไหนเป็นเช่นนั้นเองตามธรรมชาติในโลกนี้
.
คนมันโง่มาตั้งแต่เกิด ถ้าสวยมันก็ชอบ ถ้าไม่สวยมันก็ไม่ชอบ นั่นคือไม่มีปัญญา ถ้ามีปัญญาก็จะรู้ว่า สวยก็เช่นนั้นเอง ไม่สวยก็เช่นนั้นเอง
.
ไม่จำเป็นจะต้องแยกว่า สวยแล้วก็รัก ก็พอใจจนเกิดราคะ หรือโลภะ
ไม่ใช่ว่า ไม่สวยแล้วก็ไม่พอใจ จนเกิดโทสะหรือโกธะ
.
มีปัญญาสำหรับพิจารณาต่อไปว่า เราจะทำอะไรกับรูปที่สวยนี้ หรือรูปที่ไม่สวยนี้เมื่อไม่เกี่ยวข้องอะไร ก็ไม่ต้องทำอะไร ถ้ามีเรื่องที่ต้องเกี่ยวข้องกัน ก็ทำด้วยสติสัมปชัญญะ อย่าให้ความสวยนั้นเกิดเป็นพิษเป็นโทษเป็นภัย อะไรขึ้นมาได้
ในสิ่งที่ไม่สวย ก็มีสติสัมปชัญญะ รู้รักษาป้องกัน ไม่ให้เกิดโทสะ โกธะ เป็นต้น

พุทธทาสภิกขุ

3,171







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย