"สมาธิ ปัญญา" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
"สมาธิ ปัญญา"
" .. คนบางประเภทไม่ค่อยมีสิ่งแวดล้อมเป็นภาระกดถ่วงใจมาก เพียงใช้คำบริกรรม ภาวนา "พุทฺโธ ธมฺโม สงโฆ" เป็นต้น บทใดบทหนึ่งเข้าเท่านั้น "ใจก็ได้รับความสงบเยือกเย็นเป็นสมาธิลงได้" กลายเป็นต้นทุนหนุนปัญญา ให้ก้าวหน้าต่อไปได้อย่างสบายที่ เรียกว่า "สมาธิอบรมปัญญา"
แต่คนบางประเภทมีสิ่งแวดล้อมเป็นภาระกดถ่วงใจมากและเป็นนิสัยชอบคิดอะไรมากอย่างนี้ "จะอบรมด้วยคำบริกรรมอย่างที่กล่าวมาแล้วนั้น ไม่สามารถที่จะยังจิตให้หยั่งลงสู่ความสงบเป็นสมาธิได้ ต้องใช้ปัญญาไตร่ตรองเหตุผล ตัดต้นเหตุของความฟุ้งซ่านด้วยปัญญา"
เมื่อปัญญาได้หว่านล้อมในสิ่งที่จิตติดข้องนั้นไว้อย่างหนาแน่นแล้ว "จิตจะมีความรู้เหนือปัญญาไปไม่ได้และจะหยั่งลงสู่ความสงบเป็นสมาธิได้"ฉะนั้นคนประเภทนี้ "จะต้องฝึกฝนจิตให้เป็นสมาธิได้ด้วยปัญญา" ที่เรียกว่า "ปัญญาอบรมสมาธิ" ตามชื่อหัวเรื่องที่ให้ไว้แล้วในเบื้องต้นนั้น
"เมื่อสมาธิเกิดมีขึ้นด้วยอำนาจปัญญา" อันดับต่อไปสมาธิก็กลายเป็นต้นทุนหนุนปัญญาให้มีกำลังก้าวหน้า "สุดท้ายก็ลงรอยเดียวกันกับหลักเดิม" ที่ว่า "สมาธิอบรมปัญญา" .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน