"สมถะเป็นบาทของวิปัสสนา" (หลวงปู่ฝั้น อาจาโร)

 วิริยะ12  

.
 "สมถะเป็นบาทของวิปัสสนา"

" .. "เมื่อจิตเราสงบภายในแล้ว อุปมาเหมือนน้ำสงบ" น้ำสงบมันก็ใส ใสแล้วก็มองเห็นเหตุ มองเห็นผล มองเห็นบุญกุศล มองเห็นสุข "มองเห็นทุกข์ มองเห็นดี มองเห็นชั่ว"

มันสงบแล้ว อันนี้จิตของเราสงบแล้ว พอมันจะออกข้างซ้าย หรือจะออกข้างขวา ข้างหน้าข้างหลัง ข้างบน ข้างล่าง เราก็รู้ จึงว่ามันตั้ง นี่ เพ่งเล็งตั้งสติอยู่ตรงนี้ นี่หละให้พึงรู้ พึงเข้าใจต่อไปการที่ทำสมาธิ

อันนี้เมื่อจิตของเราเห็นแล้วอย่างนี้ เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสังขารทั้งหลายและมันจะได้เกิด ปัญญา ความรอบรู้ในกองสังขาร ใครเป็นผู้ปรุง ใครเป็นผู้แต่ง ไม่ใช่อันอื่นปรุงแต่ง กายสังขาร จิตสังขาร นี่หละ ปรุงแต่งขึ้นจากจิตของเรา

นี่หละมันจึงได้เกิดเป็น วิปัสสนา ขั้นต่อไปของสมถะ .. "

"สมถะเป็นบาทของวิปัสสนา"

" .. เดี๋ยวนี้คนทั้งหลายว่าแท้วิปัสสนา ๆ ได้ แต่ว่าไม่รู้จักว่า วิปัสสนามันเป็นยังไง นี่ "สมถะเป็นบาทของวิปัสสนา" คือเมื่อจิตสงบแล้ว มาเห็นที่เกิดแห่งสังขาร แล้วก็เห็นที่ดับแห่งสังขารนี่หละ มันเป็นยังงี้

ให้พากันรู้ เดี๋ยวนี้เราไม่รู้ว่าอะไรมันเกิดจากไหน ไม่รู้จักที่เกิดและไม่รู้จักที่ดับ มันจะเป็นวิปัสสนาได้ยังไงล่ะ

"วิปัสสนา" คือเมื่อจิตเราสงบแล้ว ก็เห็นที่เกิดแห่งสังขาร โอ "เกิดจากจิตของเรา" เราก็ดับสังขารที่จิตของเรา ก็ดับได้เพราะเหตุใด เราเห็นโทษแห่งสังขาร เห็นภัยแห่งสังขารทั้งหลาย เห็นทุกข์แห่งสังขารทั้งหลาย นี่มันจะดับได้ก็ตรงนี้

เมื่อเป็นทุกข์เห็นโทษแล้วมันก็ตัด จึงเรียกว่า "เป็นวิปัสสนา" ความรู้แจ้งเห็นจริง เห็นสัจจธรรม .. "

หลวงปู่ฝั้น อาจาโร 

5,571







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย