ค้นหาในเว็บไซต์ :

พระพุทธองค์ทรงเตือนให้เราแสวงหาที่หลบภัยจากห้วงน้ำสู่ที่สูง สร้างเกาะอันปลอดภัยแก่ตนเอง


บางคราว พระพุทธองค์ทรงจัดกิเลสเป็นหมวดตามเวลาที่เกิดกิเลส (เช่น นิวรณ์ ๕ ที่เกิดขึ้นระหว่างเจริญสมาธิภาวนา) และตามเวลาที่กิเลสดับไป (เช่น สังโยชน์ ๑๐ หรือกิเลสผูกมัดใจที่พระอริยเจ้าในแต่ละลำดับละไปได้) บางคราวทรงจัดกลุ่มกิเลสตามผลที่มีต่อจิตใจในลักษณะเดียวกัน

ในกรณีหลังสุดนี้ มีกิเลสกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า โอฆะ ๔ (ห้วงน้ำใหญ่หรือสภาวะอันเป็นดุจกระแสน้ำหลากท่วมใจสัตว์) พระพุทธองค์ทรงเลือกห้วงน้ำเป็นอุปมาสำหรับกิเลส เพราะกระแสของกิเลสสามารถไหลบ่าพัดพาทุกสิ่งที่ขวางทาง ก่อความพินาศเสียหายแม้กระทั่งสูญเสียชีวิต เหมือนดังสรรพสิ่งที่นำ้หลากท่วมทับจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของห้วงน้ำนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ให้ความสุขและเป็นประโยชน์ต่อชีวิต ล้วนแต่ถูกรวมเข้ากับกิเลสได้ทั้งสิ้น

‘โอฆะ’ข้อแรก คือตัณหาในกาม (กาโมฆะ) เมื่อขาดศีล ขันติและสติเป็นเครื่องกำกับ และยังไม่ได้สัมผัสสุขอันยิ่งจากสมาธิ จิตย่อมถูกกามฉันทะท่วมทับได้โดยง่าย

‘โอฆะ’ ข้อที่สองคือภพ (ภโวฆะ) ผู้ใดตกอยู่ในกระแสเชี่ยวของความอยากได้ใคร่มีในสถานะ ชื่อเสียง เงินทองและอำนาจ ย่อมสูญเสียปัญญาและความสงบในไม่ช้า

‘โอฆะ’ ข้อที่สามคือ ทรรศนะ ความเชื่อ ความเห็น (ทิฏโฐฆะ) ผู้ใดถูกความเชื่อพัดพาไปว่า “ฉันถูก ฉันอยู่ข้างความจริง” ย่อมสูญเสียที่มั่นแห่งความอ่อนน้อมและเมตตา

‘โอฆะ’ ข้อที่สี่คือ อวิชชาหรือความไม่รู้แจ้ง (อวิชโชฆะ) ตราบใดที่เรายังเข้าไม่ถึงอริยสัจสี่ เราย่อมถูกกระแสกิเลสพัดพาไปอย่างสิ้นไร้หนทางในสังสารวัฏอันไม่สิ้นสุด

พระพุทธองค์ทรงเตือนให้เราแสวงหาที่หลบภัยจากห้วงน้ำสู่ที่สูง สร้างเกาะอันปลอดภัยแก่ตนเอง

ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร
แปลถอดความ โดย ปิยสีโลภิกขุ

7







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย