เราพึงชำระจิตใจก่อนนอนด้วยการสวดมนต์ นั่งสมาธิ หรือแผ่เมตตา แล้วเราจะหลับดีขึ้น ต่อให้ฝันก็จะฝันดีกว่าเดิมและจะตื่นด้วยความรู้สึกสดชื่น


พระเถระผู้เป็นเจ้าอาวาสในวัดใกล้ๆ กับวัดที่อาตมาเคยพำนักมีความสามารถพิเศษข้อหนึ่ง ทุกคืนวันพระซึ่งจะมีการปฏิบัติธรรมตลอดทั้งคืน มีธรรมเนียมว่าท่านจะแสดงธรรมนานหลายชั่วโมง บางช่วงบางตอน —โดยเฉพาะในวันที่ท่านมีกิจธุระชวนให้เหน็ดเหนื่อยมาก — ท่านจะผล็อยหลับไประหว่างแสดงธรรม แต่เรื่องนี้หาใช่สิ่งที่ว่าเป็นความสามารถพิเศษไม่ เพราะส่วนที่ว่านั้นคือ หลังจากผล็อยหลับไปสักพัก (บางครั้งอาจมีการคั่นจังหวะด้วยเสียงกรนเบาๆ) ท่านก็จะลืมตาขึ้นแล้วแสดงธรรมต่อจากที่ค้างไว้ได้ทันที

คงมีผู้อ่านน้อยคนที่จะมีโอกาสทดลองดูว่า จะสามารถหลับต่อหน้าผู้ฟังจำนวนมากได้หรือไม่ อย่าว่าแต่จะพูดถึงว่า พอตื่นแล้วจะสามารถพูดต่อจากประโยคสุดท้ายได้ทันทีหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เราทุกคนสามารถสังเกตรอยต่อระหว่างความรู้สึกสุดท้ายก่อนเข้านอนกับความรู้สึกแรกขณะตื่นนอนในวันรุ่งขึ้นได้ ข้อนี้เองเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราจึงไม่ควรใช้การนอนเพื่อหลบหนีอารมณ์ด้านลบ เพราะแทบจะไม่ได้ผลใดๆ ทั้งยังมักจะต่ออารมณ์นั้นออกไปอีก

เราพึงชำระจิตใจก่อนนอนด้วยการสวดมนต์ นั่งสมาธิ หรือแผ่เมตตา แล้วเราจะหลับดีขึ้น ต่อให้ฝันก็จะฝันดีกว่าเดิมและจะตื่นด้วยความรู้สึกสดชื่น

ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร
แปลถอดความ โดย ศิษย์ทีมสื่อดิจิทัลฯ

3,140







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย