ลักษณะวิธีการให้ทาน - พุทธทาสภิกขุ -



ทีนี้เรื่องที่ ๓ ก็จะพูดถึงการให้ หรือวิธีให้ การให้นี้ต้องดีด้วย ที่เป็นหลักใหญ่ก็ต้องมีเจตนาแห่งการให้นั้น บริสุทธิ์การให้ไปนั้น ต้องมีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ใช่เพื่อตกเบ็ดคนอื่น เดี๋ยวนี้เขาให้เป็นแสนเป็นล้าน ร้อยล้าน พันล้านนั้น ก็เพื่อตกเบ็ดคนอื่นเอามาเป็นพวก แล้วก็แสวงหาประโยชน์ด้วยกัน อย่างนี้เจตนาไม่เป็นทาน และไม่บริสุทธิ์เอาเสียเลย อีกอย่างหนึ่ง ต้องพอใจ ต้องยินดี เมื่อคิดว่าจะให้ก็ต้องอิ่มอกอิ่มใจ เมื่อให้อยู่ก็อิ่มอกอิ่มใจ เมื่อให้เสร็จแล้วก็ยังอิ่มอกอิ่มใจ นี่เพราะว่ามันเป็นการกระทำที่ถูกต้อง มันจึงอิ่มอกอิ่มใจ ทั้ง ๓ เวลา ก่อนให้ กำลังให้ และให้แล้ว นี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าถูกต้องแน่

ทีนี้การให้ที่ดีนั้น ต้องมีการเลือกเฟ้น สิ่งของที่จะให้นั้นก็ต้องเลือกเฟ้นให้ถูกต้องให้เหมาะสม แล้วเวลาที่จะให้ก็ต้องเลือกเฟ้น ให้มันถูกต้องเหมาะสม ถ้าเราไม่เลือกเรื่องเวลาแล้วมันจะประดังกันเข้ามา คนรับทานจะเอาไปเททิ้ง อย่างการทำบุญทำทานของเราในบางโอกาสเหลือมาก จนไม่รู้จะเอาไปไหน อย่างนี้มันผิดเวลา ควรจะทำให้ถูกเวลา มีคนเล่าให้ฟังว่าที่ไปฮัจยีกันที่เมืองเมกกะนั้น เขามีระเบียบมีธรรมเนียมให้ทานเหมือนกัน คือคนแต่ละคนที่ไปนั้น จะต้องบริจาคเงินค่าแพะตัวหนึ่งบ้าง สองตัวบ้าง แล้วฆ่าแพะนั้นไว้เป็นทาน เพื่อว่าคนที่ไม่มีสตางค์จะได้อาศัยเป็นอาหาร แต่มันมีคนบริจาคมากเกินคาด แพะที่ถูกฆ่านี้กองเป็นภูเขา กินกันไม่หวาดไม่ไหว มันก็เลยเน่าหมด เหม็นคลุ้งไปหมด ดีสำหรับเป็นอาหารให้แร้ง นี่เป็นการให้ทานผิดเวลา ผิดสถานที่ มักจะมีด้วยกันทุกศาสนา เพราะว่าศรัทธา

นี่การให้ทานผิดเวลา ผิดสถานที่ มักจะมีด้วยกันทุกศาสนา เพราะว่าศรัทธามันมากเกินไป ฉะนั้น จึงต้องเลือกสิ่งของ ต้องเลือกเวลา เลือกสถานการณ์ เลือกบุคคล เลือกอะไรเลือกให้ดี พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า "เลือกเฟ้นเสียก่อนแล้วจึงให้ทาน นี้พระสุคตสรรเสริญ" ทีนี้อาการที่ให้ ต้องถูกต้อง ต้องเคารพ ต้องเหมาะสม อย่างน้อยเราต้องเคารพในทานของเรา แม้เราให้แก่คนขี้เรื้อน เราก็มีความเคารพในทานของเรา เพราะมันเป็นการประพฤติธรรม เราต้องเคารพทีนี้ เราจะต้องเลือก ให้เป็นการให้ที่มีประโยชน์อย่างกว้างขวาง

ดังนั้นมันจึงเกิดมีสังฆทาน มีปุคคลิกทาน
- ให้ปุคคลิกทาน คือให้แก่คนที่เรารักเราชอบ เป็นคนๆไป
- ให้สังฆทาน นั้นให้เป็นส่วนรวมแก่หมู่แก่คณะ แก่คณะสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข อย่างนี้ก็เรียกว่า "สังฆทาน" ถ้าชอบใจพระรูปนั้นรูปนี้ ก็เอาไปให้เป็นส่วนตัวนี้ก็เรียกว่า "ปุคคลิกทาน" มันคับแคบ

ทั้งหมดนี้ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับวัตถุทานทั้งนั้น ปฏิคาหกก็ดี วัตถุทานนั้นก็ดีการให้นั้นก็ดี ดังนี้แล้ว นี้ก็เป็นเครื่องวัดว่า การให้ทานนี้ดี

- พุทธทาสภิกขุ -

3,076







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย