ทัศนะต่างกันและอุเบกขาธรรม (หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ)

 ลูกโป่ง  




 ทรรศนะต่างกัน 

การมาอยู่ด้วยกัน ปฏิบัติด้วยกันมากเข้าย่อมมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา
ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชนคนธรรมดาอยู่ ทิฐิความเห็นย่อมต่างกัน
ขอให้เอาแต่ส่วนดีมาสนับสนุนกัน อย่าเอาเลวมาอวดกัน
การปรามาสพระก็ดี การพูดจาจ้วงจาบในพระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์หรือท่านที่มีศีลมีธรรมก็ดี
จะเป็นกรรมติดตัวเราและขัดขวางการปฏิบัติธรรมในภายหน้า
ดังนั้น หากใครทำความดี ก็ควรอนุโมทนายินดีด้วย
แม้ต่างวัดต่างสำนักหรือแบบปฏิบัติต่างกันก็ตาม ไม่มีใครผิดหรอก
เพราะจุดมุ่งหมายต่างก็เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์เช่นกัน
เพียงแต่เราจะทำให้ดี ดียิ่ง ดีที่สุด เท่านั้น
ขอให้ถามตัวเราเองเสียก่อนว่า แล้วเราล่ะถึงที่สุดแล้วหรือยัง


 อุเบกขาธรรม 

การอยากชวนคนมาวัด มาปฏิบัติให้มาก ๆ
โดยลืมดูพื้นฐานจิตใจของบุคคลที่กำลังจะชวนว่า
เขามีความสนใจมากน้อยเพียงใด หลวงปู่ท่านบอกว่า

ให้ระวังให้ดีจะเป็นบาป เปรียบเสมือนกับการจุดไฟไว้ตรงกลางระหว่างคน 2 คน
ถ้าเราเอาธรรมะไปชวนเขา เขาไม่เห็นด้วย
ปรามาสธรรมนี้ซึ่งเป็นธรรมของพระพุทธเจ้า
ก็เท่ากับเราเป็นคนก่อแล้วเขาเป็นคนจุดไฟ บาปทั้งคู่ เรียกว่า  เมตตาพาตกเหว 


 หลวงปู่ได้ยกอุทาหรณ์ สอนต่อว่า

เหมือนกับมีชายคนหนึ่งตกอยู่ในเหวลึก มีผู้จะมาช่วย
คนที่หนึ่งมีเมตตาจะมาช่วย เอาเชือกดึงขึ้นจากเหว
ดึงไม่ไหวจึงตกลงไปในเหวเหมือนกัน
คนที่สองมีกรุณามาช่วยถึงอีก ก็ตกลงเหวอีก
คนที่สามมีมุทิตามาช่วยดึงอีกก็พลาดตกเหวอีกเช่นกัน
คนที่สี่สุดท้ายเป็นผู้มีอุเบกขาธรรมเห็นว่าเหวนี้ลึกเกินกว่ากำลังของตนที่จะช่วย
ก็มิได้ทำประการใดทั้ง ๆ ที่จิตใจก็มีเมตตาธรรมที่จะช่วยเหลืออยู่
คนสุดท้ายนี้จึงรอดชีวิตจากการตกเหวตาม เพราะ อุเบกขาธรรมนี้แล
กราบ กราบ กราบ ธรรมะจากหลวงปู่ 


 ที่มา...ทัศนะต่างกันและอุเบกขาธรรม
หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ
วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากหนังสือ พรหมปัญโญบูชา
โพสท์ในลานธรรมเสวนา กระทู้ที่ 006458
โดยคุณ : ปิดทองหลังพระ [ 19 ก.ย. 2545] 

http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/lp_doo/lp-doo_02.htm

5,635







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย