ค้นหาในเว็บไซต์ :

แผ่นดินไหว เขย่าใจเราให้ตื่นรู้ หรือ ทำให้ยิ่งหลับไหล

 Webmaster  

แผ่นดินไหว เขย่าใจเราให้ตื่นรู้ หรือ ทำให้ยิ่งหลับไหล

เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่างแผ่นดินไหว
สามารถเขย่าไม่เพียงแต่พื้นดิน
แต่ยังเขย่าความคิดและจิตใจของเรา
ให้สะเทือนอย่างรุนแรง

หลายคนอาจใช้ชีวิตไปเหมือนเดิม
เพราะไม่รู้จะทำอะไรมากไปกว่านั้น

หลายคนอาจอยากพัฒนาปรับปรุงชีวิตให้ดีขึ้น
หลายคนอาจกลับไปจัดการเรื่องราวที่ค้างคาใจ
หลายคนอาจอยากเรียนรู้การดูแลจิตใจให้ปกติในยามมีภัย

หลายคนอาจคิดว่าต้องรีบใช้ชีวิตก่อนตาย
...ทำสิ่งที่อยากทำ

คนบางคนเมื่อนึกถึงความตาย
ก็รีบกิน รีบเที่ยว รีบสนุก
คนบางคนเมื่อนึกถึงความตาย
ก็รีบทำความดี
แต่พระพุทธเจ้าสอน คือ
ให้ปล่อยวางตัวกู-ของกู คือ คาย เหยื่อ เสีย

อาจารย์พุทธทาส อธิบายแนวคิดนี้ไว้ว่า

"คนสมัยนี้มีความเห็นตรงกันข้ามกับคนสมัยก่อน
คนสมัยก่อนถ้าคิดถึงความตาย
เค้ารีบทำความดีให้มากก่อนตาย
ทีนี้คนสมัยนี้เมื่อคิดถึงความตาย
ว่าต้องตายแน่เนี่ย
มันรีบกิน รีบเล่น รีบเอาเปรียบคนอื่น

อย่างภาษิตของพวกที่ว่า
กิน ดื่ม ร่าเริงเต็มที่วันนี้
เพราะว่าเราอาจจะตายพรุ่งนี้ก็ได้
เดี๋ยวนี้เป็นอย่างนั้น
Eat drink and be merry,
tomorrow we may die
พวกฝรั่งเค้าชอบพูด
แต่คนโบราณเค้าถ้านึกถึงความตาย
รีบทำความดี

ลัทธิตามใจตัวเอง
eat drink and be merry,
for tomorrow we may die
นี่ก้องไปทั้งโลกว่า
กินดื่มเล่นหัวร่าเริงเสียแต่บัดนี้
เพราะว่าพรุ่งนี้เราอาจจะตายเสียก่อนก็ได้
นี่เป็นลัทธิที่โลกถืออยู่ในปัจจุบันนี้เป็นส่วนมาก
ก้องไปทั้งโลก

หลักอย่างนี้เรียกในบาลีครั้งพุทธกาลว่า
อาคาฬหปฏิปทา
(พอใจในกาม มีความเห็นผิดว่ากามนั้นไม่มีโทษ)
หรือ กามสุขัลลิกานุโยค
ประกอบตนพัวพันอยู่ในกาม
นี่เรียกว่า ตามใจตัวเอง คือ ตามใจกิเลส"

[หมายเหตุ พอใจในกาม หมายถึง พอใจในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ที่น่าใคร่ รวมถึงทรัพย์สมบัติต่างๆ ลาภยศ สุขสรรเสริญต่างๆ; กามไม่ได้หมายถึงเรื่องเพศเท่านั้น]
.
.
.
อ.พุทธทาส อธิบายต่อว่า
แค่การทำความดียังไม่พอ
แต่ต้องปล่อยวางสิ่งต่างๆ
รวมถึงความสุขแบบโลกๆ

"หลักธรรมะก็มีอยู่เป็นชั้นๆ คนหนึ่งพูดว่า
ถ้าเห็นว่ามันใกล้ตายแล้วก็รีบทำบุญ
มันจะนำสุขมา นี้ก็ว่าถูก
แต่พระพุทธเจ้าท่านว่า
ถ้าเห็นว่ามันใกล้จะตายแล้ว
ให้รีบละสุขที่มีเหยื่อเสีย
ให้คายเหยื่อเสีย
อย่าไปมัวกินเหยื่ออยู่เลย

ชาวบ้านทั่วไปหรือพวกเทวดาเค้าพูดว่า
ถ้านึกถึงความตายแล้วก็รีบทำบุญทำดี
พระพุทธเจ้าท่านไม่ค้านว่าผิดหรือถูก
ท่านพูดเสียใหม่ว่า
ถ้านึกถึงความตาย
รีบละเหยื่อในโลกเสีย
แล้วไปหวังนิพพาน

เหยื่อในโลกมีความหมายว่า
ความเอร็ดอร่อยทางเนื้อทางหนัง
หวังนิพพาน คือ จิตใจที่อยู่สูง...เหนือสิ่งเหล่านี้"

แผ่นดินไหวอาจผ่านมาแล้วและจบลง แต่การสั่นสะเทือนที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นในจิตใจของเรา...หลายคนวิ่งไล่ตามสิ่งที่คิดว่าจะทำให้มีความสุข แต่หารู้ไม่ว่ากำลังกลืนกิน เหยื่อ ที่พันธนาการเราไว้ให้จมอยู่ในวังวนเดิมๆ

หากเราใช้โอกาสนี้ตื่นรู้และปล่อยวางสิ่งทั้งปวง ความสันติสุขจากภายในก็จะปรากฏอย่างมั่นคง ไม่สั่นไหว แม้ว่าโลกภายนอกจะเปลี่ยนไปเพียงใด

#พัฒนาตน #สวนโมกข์กรุงเทพ #สร้างสรรค์สังคมรมณีย์

9







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย