ธรรมะจากหลวงพ่อ

เรื่องที่ ๔๖ : นักบริหารมืออาชีพ
โดย : พระพิพิธธรรมสุนทร วัดสุทัศนเทพวราราม กทม.


เดี๋ยวนี้ เราอยากเป็นนักบริหารกัน มาถามว่า คำว่า "นักบริหาร" คือ อะไร ? ทุกคนตอบไม่ได้ ก็จะขอจำกัดความให้เข้าใจกันเสียก่อนว่า คำว่า "บริหาร" นั้น มาจากคำว่า บริ หรือปริ นั้น แปลว่า รอบด้าน รอบข้าง รอบรู้ ส่วนคำว่า "หาร" แปลว่า นำไป

คำว่า "บริหาร" ก็คือว่า ต้องนำไปได้ทั้งหมด ทุกกระบวนการ
สำหรับ "ฆารวาส" บริหาร 6 อย่าง พระก็ 6 อย่าง ให้ท่านทั้งหลาย ได้ลำดับความดังนี้

อย่างแรกที่สุด บริเวณ
อย่างที่สอง บริวาร
อย่างที่สาม บริภัณฑ์
อย่างที่สี่ บริการ
อย่างที่ห้า บริกรรมกิจ
อย่างที่หก บริกรรมภาวนา

บริเวณ ต้องบริหารให้เป็น ต้องศึกษาศาสตร์ของบริเวณ ว่าสถานที่นั้นประดับอย่างไร ตกแต่งอย่างไร ใช้สอยอย่างไร สีเป็นอย่างไร อารมณ์เป็นอย่างไร

บริวาร ต้องให้การศึกษา ต้องให้ความรู้ ให้แม่นในกฎเกณฑ์ และมั่นในกฏกรรม

บริภัณฑ์ คือ เครื่องใช้ไม้สอย ต้องจัดหาให้ครบ และให้รู้จักใช้เครื่องไม้สอยให้ดี จัดหา จัดซื้อ จัดจำหน่าย

บริการ คือ งานบริการ เป็นเรื่องสำคัญ

บริกรรมกิจ คือ รับหน้าที่อะไรไว้ ต้องทำให้หมด ทุกอย่าง ในแต่ละวัน

บริกรรมภาวนา คือ ต้องเป็นคนมีศีลธรรม ไหว้พระสวดมนต์ ทำสมาธิสม่ำเสมอ

"บริเวณ บริวาร บริภัณฑ์ บริการ บริกรรมกิจ" 5 อย่างนี้ ถ้าทำได้ดีทั้งหมด เรียกว่า "คนเก่ง"
แต่ "บริกรรมภาวนา" เรียกว่า "คนดี"
แต่ถ้าเก่งแล้วไม่มีดี อยู่ได้ไม่นาน "เก่ง" ต้องมี "ดี"

เพราะฉะนั้น การบริหารนั้น อย่าลืม เรื่องของจิต เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ไม่ฉะนั้นแล้ว ก็จะเป็นนักบริหารที่เก่ง แต่โกง นี่คือ "การบริหาร"
ส่วนพระสงฆ์นั้น เปลี่ยนจาก "บริภัณฑ์" มาเป็น "บริขาร" ก็ตรงกัน พระสงฆ์นั้น บริหารเป็นแล้ว 5 อย่าง ข้างต้น
"บริเวณ บริวาร บริภัณฑ์ บริการ บริกรรมกิจ" เขาเรียกว่า "พระมีศักดิ์ศรี" เดี่ยวก็ ได้ยศ ได้ศักดิ์ แต่ถ้าไม่มี "บริกรรม" ก็มีแต่ศักดิ์ศรี เดี๋ยวก็พัง พระสงฆ์ต้องมี "บริกรรมภาวนา" จึงจะศักดิ์สิทธิ์ เพราะพระสงฆ์นั้นต้อง มีศักดิ์ศรี และมีความศักดิ์สิทธิ์ จึงจะเป็นนักบริหารที่ดี




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย