พระภัททิยะ มีชาติภูมิอยู่ในเมืองกบิลพัสดุ์ เป็นบุตรของพราหมณ์คนหนึ่งในจำนวนพราหมณ์ ๑๐๘ ที่ได้รับเชิญเลี้ยงโภชนาหารในการทำนาย พระลักษณะของพระมหาบุรุษ
ในสมัยที่ท่านยังเป็นหนุ่ม ได้ยินบิดาเล่าให้ฟังว่า พระมหาบุรุษมีพระลักษณะถูกต้องตามมหาบุรุษลักษณพยากรณ์ศาสตร์ จึงเกิด ความเคารพและเลื่อมใสในพระองค์เป็นยิ่งนัก
เมื่อพระมหาบุรุษเสด็จออกทรงผนวช ท่านพร้อมด้วยพราหมณ์ทั้ง ๔ คน ซึ่งมีโกณฑัญญะเป็นหัวหน้าตกลงร่วมกันว่า การบรรชาของพระมหาบุรุษจักไม่เลวทรามหรือเสื่อมเสียจากประโยชน์เป็นแน่แท้ คงอำนวยประโยชน์ให้แก่คนอื่นด้วย
ครั้นปรึกษากันเป็นที่เข้าใจแล้วจึงพากันออกบวชเป็นฤาษีติดตามคอยอุปัฏฐากทุกเช้าค่ำ ด้วยคาดหวังว่าถ้าพระองค์ได้ตรัสรู้แล้วจักนำธรรมะมาสั่งสอนพวกตนให้บรรลุตามบ้าง
ครั้นเห็นพระองค์ทรงละการบำเพ็ญ ทุกรกิริยา จึงเกิดความเบื่อหน่ายในการคอยอุปัฏฐากทุกเช้าค่ำด้วยคิดว่า พระองค์กลายมาเป็นคนมักมากในกามคุณ คลายจาก ความเพียรเสียแล้ว คงจะไม่ได้บรรลุธรรมพิเศษอันหนึ่งอันใดแน่ จึงพากันหลีกหนีไปอยู่ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวง เมืองพาราณสี
เมื่อพระองค์ได้ตรัสรู้แล้วเสด็จไปโปรดแสดงพระธรรมเทศนาชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตนสูตร เป็นปฐมเทศนา แต่ไม่สำเร็จมรรคผลอะไร ต่อมาได้ฟังปกิณณกเทศนา ได้บรรลุโสดาปัตติผล เป็นพระโสดาบัน จึงได้ทูลขอบรรพชาอุปสมบท ในพระธรรมวินัย
ท่านบวชด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา เมื่ออินทรีย์แก่กล้าแล้ว ได้ฟังพระธรรมเทศนาชื่อว่า อานัตตลักขณสูตร เมื่อจบพระธรรมเทศนา ท่านก็หลุดพ้นจากกิเลศ ไม่ถือมั่นด้วยอุปาทาน สำเร็จเป็นพระอรหันต์
ท่านเป็นพระเถระรูปหนึ่งที่เป็นกำลังสำคัญในการช่วย ประกาศพระศาสนา เมื่อดำรงอายุสังขารพอสมควรก็ได้ดับขันธปรินิพพาน