สมาธิภาวนาเป็นวิธีส่องไฟให้กายและจิตเพื่อศึกษาในสิ่งที่เราเห็น

 Webmaster  

"ตามปกติ เวลาส่องไฟไปยังสิ่งใด เราจะเห็นสิ่งนั้นชัดขึ้น แต่บางครั้งแสงไฟก็ส่องให้เห็นว่าการรับรู้ของเราผิดพลาด แท้จริงแล้วสิ่งที่เราเห็นอาจเป็นคนละเรื่องกับที่คิด บางคราวเราก็พบว่าที่เห็นเป็นงูเลื้อยขวางถนนนั้นคือเชือก หรือที่เห็นเป็นเชือกนั้นแท้จริงเป็นงู

ในการเจริญสมาธิ เราฝึกฝนวิธีส่องไฟให้กับประสบการณ์ต่างๆ ในชีวิต ผลที่เกิดขึ้นคือเราเห็นสิ่งต่างๆ ชัดเจนขึ้น เช่น ความน่าเกลียดน่ากลัวของโทสะและความงดงามของเมตตากรุณา การเห็นเช่นนี้ส่งผลให้คุณค่าและลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ในชีวิตเราเปลี่ยนไป หลายสิ่งที่พอเห็นชัดเจนแล้วกลายเป็นเรื่องไร้สาระ ที่สำคัญที่สุดคือการรับรู้ต่ออัตตาตัวตน จากที่เคยเห็นว่ามั่นคงพึ่งพาได้ เป็นทั้งศูนย์กลางและเป็นเจ้าข้าวเจ้าของประสบการณ์ กลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย เราเห็นแต่กระแสของปรากฏการณ์ทางกายและใจที่เปลี่ยนไปตามเหตุตามปัจจัย

ลองพิจารณามองสมาธิภาวนาในแง่นี้ คือ ไม่ได้หมายถึงการใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อให้เกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นวิธีส่องไฟให้กายและจิตเพื่อศึกษาในสิ่งที่เราเห็น"

พระอาจารย์ชยสาโร


• ทำผู้อื่นสัตว์อื่นทุกข์แล้วทุกข์จะไม่ถึงตนนั้นไม่มี (หลวงปู่เหรียญ)

• "ผลแห่งการรักษาอุโบสถศีลครั้งเดียว"

• "มีสติอยู่ คือภาวนาอยู่" (หลวงปู่ชา สุภทฺโท)

• ก่อนพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติ ทรงเลือก ๕ อย่าง

• 09 560824-กรรมฐานชีวิตประจำวัน (24 ส.ค. 2556) 9/9
Ralated Story




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย