Warning: file(../ad468.txt): failed to open stream: No such file or directory in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/randomad468.php on line 4
 
 
พระพุทธศาสนา
หัวข้อธรรม
ธรรมะปฏิบัติ
ศาสนพิธี
วันสำคัญทางศาสนา
ทำเนียบวัดไทย
พระพุทธศาสนาในไทย
คลิ๊กอ่านรายละเอียด
คลิ๊กอ่านละเอียด
คลิ๊กอ่านรายละเอียด
รวบรวมบทสวดมนต์และพระคาถาต่างๆ
+ The British Dispensary (L.P.)
+ Spa Of Eternity

นิทาน ธรรมะ บันเทิง

ไมตรี
เรื่องจาก : นิทานธรรมะบันเทิง
จำนวนคนอ่าน 2947 คน
โดย : พระพิจิตรธรรมพาที  
วันที่ online : ๖ มกราคม ๒๕๔๘  

         "จะปรารถนาสารพัดในปัฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง" ข้าพเจ้าชอบภาษิตนี้มาก แม้จะเป็นข้อความสั้น ๆ แต่มีความหมายลึกซึ้งเป็นคติจับใจนัก

         จริงอยู่ โดยทั่วไป ๆ เงินทองเป็นของที่สามารถใช้แลกเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ได้ตามต้องการ ถึงกับบางท่านได้แต่งภาษิตรับรองไว้ว่า "มีเงินมีทองเจรจาได้ มีไม้มีไร่ปลูกเรือนงาม" หรือว่า มีเงินหรือจะไร้อะไรกับของ มีทองจะไร้อะไรกับแหวน" แต่ท่านลองคิดดูเถิด สิ่งของที่ได้มาจากเงินทองกับสิ่งของที่ได้มาจากไมตรีจิตมีคุณค่าต่างกันมาก

          คนเราลงได้มีไมตรีจิตต่อกันแล้ว จะต้องการอะไรก็หาให้ได้ สิ่งที่ยากก็กลับเป็นง่าย เรื่องที่ใหญ่ก็กลับเป็นเล็ก ทุกอย่างดีหมด อย่างที่เขาว่า "รักกันก็สารพันว่าดี แต่พอเกลียดกันเข้าซี อัปรีย์สารพัน"

          มีเรื่องเล่ากันมาว่า ครั้งสมัยแผ่นดินพระจุลจอมเกล้าฯ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งพร้อมด้วยเพื่อนอีกสองคน เข้าไปยิงสัตว์ในป่าเกิดหลงทางกลับไม่ได้ เดินวกไปเวียนมาเกือบ ๆ จะมืดอยู่แล้วบังเอิงพบบ้านเข้าหลังหนึ่ง ต่างดีใจรีบพากันแวะเข้าไป เจ้าของบ้านผู้อารีก็กุลีกุจอจัดแจงต้อนรับขับสู้ด้วยไมตรีจิตเรียกลูกชายให้ไปตักน้ำให้อาบ เรียกเมียมาหุงหาอาหาร ให้รับประทานพร้อมทั้งจัดที่นอนให้เสร็จ

          อาคันตุกะทั้ง ๓ รู้สึกซาบซึ้งในไมตรีจิตเป็นที่ยิ่ง ไม่นึกเลยว่าชาวป่าจะมีน้ำใจดีเช่นนี้ นี่แหละเข้าหลักที่ว่าข้างนอกขรุขระแต่ข้างในสะสวยซึ่งดีกว่าชาวเมืองบางคนที่ข้างนอกสุกใส แต่ข้างในไม่ได้เรื่อง
          ตอนนี้หัวหน้าอาคันตุกะเอ่ยขึ้นว่า ลุงต้องการให้ฉันช่วยเหลืออะไรบ้างบอกมาเถิดไม่ต้องเกรงใจ
          "อย่างอื่นก็ไม่ต้องการอะไรดอก" เจ้าของบ้านตอบ "อยากจะให้เจ้าลูกชายเขาได้เข้าไปอยู่กรุงเทพฯ เท่านั้นแหละ เขาว่าเจริญดีจริง ๆ ฉ้นเองเกิดมาจนป่านนี้เกือบ ๆ จะเข้าโลงอยู่แล้ว ยังไม่เคยเห็นกรุงเทพฯ เลย" พูดพร้อมกับหัวเราะ
           ดีทีเดียวฉันก็อยู่กรุงเทพ ฯ เหมือนกัน ถ้าลุงไม่ขัดข้องฉันจะพาไปอยู่ด้วย แล้วจะพาไปอยู่ด้วย แล้วจะชุบเลี้ยงให้เต็มที่ลุงไม่ต้องห่วง แล้วก็หยิบนามบัตรมอบให้ไว้หนึ่งแผ่น
          เด็กคนนี้แหละ ต่อมาได้เป็นข้าราชการชั้นสูงในกระทรวงแห่งหนึ่งและมีหลักฐานมั่นคงอยู่ในกรุงเทพฯ อบอุ่นอยู่ในอ้อมอกของพ่อแม่ ซึ่งท่านได้รับเลี้ยงไว้ด้วย

          นี่คือผลของไมตรีจิต ที่ชาวป่าทำไว้ครั้งกระโน้น ซึ่งพอดีมาตรงกับภาษิตที่ว่า "อันบุญกรรมทำไว้แต่ปางหลัง เป็นพืชยังปางนี้ให้มีผล" ชาวพุทธทั้งหลาย จงร่วมใจกันแผ่ไมตรีจิตอย่าได้คิดโกรธเกลียดและริษยาพยาบาทซึ่งกันและกันเลย

          ชาวโลกจะได้อยู่กันด้วยความผาสุก เพราะโลกร่มเย็นดับเข็ญได้ด้วยไมตรีโปรดภาวนาไว้เสนอว่า "จะปรารถนาสารพัดในปัฐพีเอาไมตรีแลกได้ดังใจจง"

หน้าแรก พระพุทธศาสนา ประวัติพระพุทธสาวก หัวข้อธรรม ธรรมปฏิบัติ ศาสนพิธี วันสำคัญทางศาสนา ทศชาติชาดก วิทยุธรรมะไทย
พุทธศาสนสุภาษิต พจนานุกรมพุทธศาสน์ ทำเนียบวัดไทย คลังแสงแห่งธรรม พระพุทธศาสนาในเมืองไทย ข่าวธรรมะ กิจกรรมธรรมะ สมุดเยี่ยม
ธรรมะไทย - dhammathai.org Warning: include(../useronline.php): failed to open stream: No such file or directory in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/dhammastory/story53.php on line 503 Warning: include(../useronline.php): failed to open stream: No such file or directory in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/dhammastory/story53.php on line 503 Warning: include(): Failed opening '../useronline.php' for inclusion (include_path='.:/usr/local/lib/php') in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/dhammastory/story53.php on line 503