มีเรื่องเล่าว่า
เศรษฐีคนหนึ่งเป็นคนมั่งมีมาก แต่มีลูกชายอยู่คนเดียวกำลังเป็นหนุ่ม
และท่านเศรษฐีก็แก่เฒ่าลงทุกวัน ๆ จึงคิดอ่านอยากจะให้ลูกชายได้แต่งงานเสียที
จะได้เป็นฝั่งเป็นฝา แต่การหาหญิงมาเป็นลูกสะใภ้นั้นท่านเศรษฐีตั้งใจว่า
จะต้องหาหญิงที่ฉลาดในการครองเรือน มิฉะนั้นจะมาผลาญสมบัติเสียหมด
"เพราะฉะนั้นจึงตกลงหาลูกสะใภ้โดยมีการเลือกคุณสมบัติตามที่ต้องการ
วิธีการของท่านเศรษฐีแปลกอยู่หน่อย
คือเปิดการสอบคัดเลือกชิงตำแหน่งลูกสะใภ้เศรษฐีขึ้น โดยต้องการบรรจุเพียง
๑ ตำแหน่งเท่านั้น ส่วนข้อสอบท่านเศรษบีออกเอง ข้อสอบมีอยู่ข้อเดียว
คือถามว่า
"มีปลาอยู่ตัวเดียว
ทำอย่างไรจึงจะกินได้ตลอดปี?"
ท่านผู้อ่านลองนึกตอบดูบ้างซิ
เผื่อใครเขานึกกำลังจะสอบเอาลูกเขยลูกสะใภ้มาบ้าง จะได้ลองสอบแข่งขันดู
พอดูลูกชายจำเอาข้อสอบได้แล้ว
ก็ตระเวนไปเที่ยวถามผู้หญิงเห็นผู้หญิงคนใดท่าทางเป็นที่ต้องตา ต้องใจ
ก็เข้าไปถามดูว่า "คุณ
! คุณพ่อให้มาถามว่า "เรามีปลาอยู่ตัวเดียว ทำยังไงจึงจะกินไปได้ตลอดปี"
"อ๋อ!
ง่ายนิดเดียว เราก็ทำปลาร้าไว้ซิ!" แม่คนหนึ่งตอบตก!
"ไม่ยาก
ๆ ทำเค็มไว้ซิค่ะ !" คนสวยอีกคนตอบ ตกอีก! เหมือกันจะตอบว่าอย่างไรจึงถูก
มีใครตอบว่าอย่างไร ก็จำเป็นมาบอกคุณพ่อ ผลที่สุดก็สอบตกกันเป็นแถว
ทำปลาร้า ปลาเจ่าปลาแห้ง ปลาเค็ม ไม่ถูกทั้งนั้น เพราะมันปลาตัวเดียวเท่านั้น
ต่อให้ทำเค็มเท่าไร ๆ มันก็หมด
ครั้งลูกชายเศรษฐีตระเวนไปถามไป
ก็ไปเจอหญิงแก้วเข้าคนหนึ่งแกตอบว่า "ทำอะไรก็ได้คือเอาปลาตัวนั้นมาตัดเป็นท่อน
ๆ หลายๆ ท่อน แล้วเอาท่อนหนึ่งไปให้บ้านป้า อีกท่อนหนึ่งไปให้บ้านน้า
บ้านเพื่อนบ้านที่แจกจ่ายจ่ายแบ่งปันไป เราผัวเมียกินท่อนเดียวก็พอ
โดยวิธีนี้ปลาตัวนั้นจะช่วยเราไปตลอดปี" พ่อหนุ่มลูกเศรษฐีนำความไปบอกคุณพ่อ
ท่านเศรษฐีได้ยินคำตอบก็ปรบมือหัวเราะก๊ากด้วยความดีใจ ตกลงแม่คนนี้สอบได้และได้ครองตำแหน่งลูกสะใภ้เศรษฐี!
จริงของเขาไหมท่าน
? ปลาท่อนเดียวที่มีถูกส่งแยกย้ายไปอยู่บ้านคนอื่นนั้น มันเป็นของมีฤทธิ์
ใครกินมันเข้าไปแล้ว มันจะคอยสะกิดหัวใจคนนั้น ปี ๆ ให้คิดถึงนายเก่าของมัน
แล้วก็อยากจะให้อะไรแก่เขา (ผู้ให้) แล้วผลที่สุดก็เป็นอย่างนั้นจริง
ๆ ปลาท่อนเดียว เท่านั้น มันอาจกลับมาเป็น เนื้อ เนื้อไก่ เป็นผัก
และเป็นอะไร ๆ ก็ได้ แปลกไหมท่าน ?
ตรึกตรองดูให้ดี
ๆ แล้ว การให้ปันเป็นงานน่าทำจริง ๆ เป็นงานที่ได้ผลประหลาด ๆ ของที่เราแบ่งปันให้เขา
ถ้าดูกันให้สุดต้นสุดปลายแล้วก็คือให้เรานั่นเอง คล้าย ๆ กันเราให้น้ำ
ให้ปุ๋ยแก่ต้นไป ๆ ต้นไม้ก็ให้ดอกให้ดอกให้ผลแก่เรา และผลที่ได้ก็งอกเงยขึ้นอีกเป็นทวีคูณเพราะเหตุนี้แหละนักปราชญ์ท่านจึงกล่าว่า
"คนโง่ไม่แบ่งปันให้ใคร เพราะกลัวจน
แต่ก็เพราะกลัวจนคนฉลาดจึงแบ่งปัน"
|