Warning: file(../ad468.txt): failed to open stream: No such file or directory in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/randomad468.php on line 4
 
 
พระพุทธศาสนา
หัวข้อธรรม
ธรรมะปฏิบัติ
ศาสนพิธี
วันสำคัญทางศาสนา
ทำเนียบวัดไทย
พระพุทธศาสนาในไทย
คลิ๊กอ่านรายละเอียด
คลิ๊กอ่านละเอียด
คลิ๊กอ่านรายละเอียด
รวบรวมบทสวดมนต์และพระคาถาต่างๆ
+ The British Dispensary (L.P.)
+ Spa Of Eternity

นิทาน ธรรมะ บันเทิง

ความเพียรที่สูญเปล่า
เรื่องจาก : นิทานธรรมะบันเทิง
จำนวนคนอ่าน คน
โดย : พระพิจิตรธรรมพาที  
วันที่ online : ๒๗ ธันวาคม ๒๕๔๗  

          ทายก.. เจ้าปัญญาคนหนึ่ง แกไปวัดปรนนิบัติอุปัฏฐากพระบ้าง ปรึกษาหารือกับพระและอุบาสิกาบ้าง ปรึกษาหารือกับพระและอุบาสิกาบ้าง หาทางที่จะทำให้วัดเจริญ เพราะแกรู้ดีว่าวัดเป็นสมบัติของทุกคนในละแวกนั้น ไม่ใช่สมบัติของสมภารหรือใครคนใดคนหนึ่ง และแกคิดอย่างแยบคายว่า ถ้าปล่อยวัดให้ทรุดโทรม ก็เท่ากับประจานคนทั้งบ้านทั้งบางว่ามีอัธยาศัยตกต่ำห่างศีลห่างธรรม ถ้าวัดเจริญรุ่งเรืองก็จะกลายเป็นเครื่องหมายประดุจประกาศนียบัตรประกาศถึงนิสัยใจคอคนทั้งแถวทั้งแถบ ว่าใฝ่ศีลชินธรรม.. แกจึงอบรมเชิงปรึกษากับทุกๆคน ที่แก่เห็นว่าพอจะชักนำให้ร่วมกันทำคุณงามความดีได้ และปรากฏว่าไม่มีใครที่จะดื้อดึงตำหนิติเตียนแก ว่าสาระแนนอกเรื่อง คนเราทำตัวดีซะอย่างพูดอะไรคนก็เชื้อ เกียรติย่อมไม่ละผู้ที่ตั้งอยู่ในธรรมะ คือ ความตริงความดี ความถูกต้อง..

          ในวัดนั้นมีพระหนุ่มอยู่รูปหนึ่ง เล่นแร่แปรธาตุทำตะกั่วให้เป็นทองคำ ทุกวันที่ทายกเข้ามาในวัด จะเห็นพระหนุ่มรูปนี้ นั้งอยู่ที่หน้าเตาสูบ ชักคันชักสูบเตาสุมไฟเคี่ยวตะกั่วอยู่ทุกวัน ๆ ที่เขาว่าเล่นแร่แปรธาตุจนผ้าขาดไม่รู้ตัวนั้น มันจริงทีเดียว พระรูปนี้ก็หมุนอยู่หน้าเตา จนผ้าสบงจีวรกร่อนผุ ..แกก็ยัวไม่ใส่ใจ มุ่งหน้าแต่จะทำตะกั่วให้เป็นทองท่าเดียว

          ทายกเห็นพระหนุ่มรูปนี้มุ่งมั่นในการงานดังนี้ ก็นึกชมว่าขยัน.. แต่ในความนึกคิดนั้น ก็ยังแถมติอยู่ คือติว่า .. "ขยันแบบโง่ ๆ ผลที่โผล่ ก็ไม่ต่างอะไรกับตักน้ำใส่ตุ่มก้นทะลุ.." เหนื่อยเปล่า แต่แก่ก็ไม่ว่ากระไร เพราะนึกไปอีกว่าขยันโง่ ๆ ก็ยังดีกว่าไม่เอไหนเลย.. ต่อมาปรากฏว่า พระหนุ่มรูปนี้ก็สึกหาลาเพศไป ทายกผู้นี้ก็หาทางให้คนไปติดต่อให้มาขอลูกสาวแก ตกลงเจ้าทิดนักเล่นแร่แปรธาตุสมัยเป็นพระ ก็กลายมาเป็นลูกเขยทายก.. วันหนึ่งทายกเรียกลูกเขยมาถามว่า "เองยังคิดจะแปรตะกั่วให้เป็นทองอยู่อีกไหม?" เจ้าเขยก็ตอบว่า "คิด" ทายกก็บอกกับเขย "เออ..! คนทำอะไรทำจริงน่ะมีแต่เจริญ แต่ว่าต้องทำจริงให้ถูกเรื่องด้วย ถ้าทำจริงไม่ถูกเรื่องไม่มีกฎเกณฑ์มันก็เสียแรงเสียเวลาเปล่า.. พ่อมีสูตรที่จะทำตะกั่วให้เป็นทองอยู่ ถ้าเจ้ายังสมัครจะเล่นแร่แปรธาตุอยู่ พ่อก็จะให้ตำรา คือเจ้าต้องไปหานวลตองมาหนึ่งปิ๊ปกับถ่านไม้พริก มาสองเล่มเกวียน เมื่อได้สองสิ่งนี้ครบแล้ว ก็มาบอกพ่อ พ่อจะได้มอบตำราให้เจ้าไปทำ" แล้วพร้อมกันนั้น แกก็กล่าวต่อไปว่า "ที่ดินหลังบ้านของเรานี่มีหลายไร่ทิ้งไว้เปล่า ๆ นานแล้ว เจ้าจะปลูกกล้วยเพื่อขูดนวลจากใบตองปลูกพริก เอาต้นมันเผาถ่านก็ได้พ่อยกให้"

          เจ้าเขยได้ฟังก็ดีใจ ไม่ยอมเสียเวลาเลย ลงมือปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นร่องเป็นคู เหมาะแก่การปลูกกล้วยปลูดพริก และด้วยอำนาจการเอาจริงขยันขันแข็ง ไม่ช้าที่ดินที่ถูกทิ้งร้างว่างเปล่ามาชั่วกาลนานของท่านทายกก็กลายเป็นสวนพริก งามสะพรั่ง ทวีผลผลิตฝักดกมากแต่ผลกล้วยเม็ดพริกเขาหาสนใจไม่ สำหรับต้นกล้วย มันมุ่งแต่จะเอานวลของมัน ซึ่งมีอยู่ที่ด้านใต้ของแผงใบตองทุกใบ วัน ๆ มันก็เฝ้าขูดเอานวลตองนั้นสะสมใส่ปี๊ปไว้ กว่าจะเต็มปิ๊ป คิดดูก็แล้วกันว่าจะต้องใช้ต้นกล้วยสักกี่ต้น .. เพราะใบหนึ่งจะได้ละอองหรือนวลของมันก็เพียงนิดหน่อยเท่านั้น ส่วนพริกกว่าต้นมันจะโตพอที่จะเผาเป็นถ่านได้ก็ต้องรอให้ต้นมันแก่พอสมควร แต่ด้วยอำนาจความมุมานะพยายาม ไม่ท้อถอยที่จะทำตะกั่วให้เป็นทอง เจ้าหนุ่มก็สะสมทั้งสองสิ่งตรงตามกำหนดที่พ่อตาต้องการ มันดีใจ รีบไปบอกพ่อตาและทวงเอาตำราวิเศษนั้นทันที

          พ่อตา หรือทายกเจ้าปัญญา ก็ยิ้มอย่างชื่นใจ บอกว่า "พ่อแปรเรี่ยวแรงของเจ้าเป็นทองสำเร็จแล้ว เจ้าไม่ต้องเสียเวลาหาสูตรหาตำราให้เหนื่อยหรอก" ว่าแล้วแกก็จูงมือลูกเขยที่ขยันอย่างโง่ ๆ เข้าไปในห้องในเรือน เปิดหีบเปิดกำปั่นให้ดูทอง เจ้าเขยแลเห็นทองรูปพรรณบ้าง ทองแท่งบ้าง? เต็มหีบเต็มกำปั่นก็ดีใจถามว่า "พ่อเอามาแต่ไหน ? มากมายนัก.." พ่อตาก็บอกว่า "ก็เอามาจากความพากเพียรของเจ้าน่ะซี ! ขณะที่เจ้าปลูกกล้วยจะเอานวลเอาละอองที่ได้ใบของมัน พ่อก็ตัดผลตัดหวี ตัดใบของมันขาย ส่วนพริกเจ้ามุ่งจะเอาต้นมันเผาถ่าน พ่อก็เก็บเม็ดอันมากมายของมันขายผลจาการขายกล้วยขายพริก พ่อก็นำไปซื้อทองสะสมไว้ ได้เท่าที่เจ้าเห็นอยู่นี่แหละ

นิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ตำราหาคู่ของคนสมัยใหม่ที่ว่า "รูปสวย รวยทรัพย์ อับปัญญา พ่อตาตาย แม่ยายโง่" นั้นไม่จริงเสมอไปแล.. เพราะมีพ่อตาฉลาด ไม่ต้องนั้งแปรธาตุให้เสียแรงเปล่า..!

หน้าแรก พระพุทธศาสนา ประวัติพระพุทธสาวก หัวข้อธรรม ธรรมปฏิบัติ ศาสนพิธี วันสำคัญทางศาสนา ทศชาติชาดก วิทยุธรรมะไทย
พุทธศาสนสุภาษิต พจนานุกรมพุทธศาสน์ ทำเนียบวัดไทย คลังแสงแห่งธรรม พระพุทธศาสนาในเมืองไทย ข่าวธรรมะ กิจกรรมธรรมะ สมุดเยี่ยม
ธรรมะไทย - dhammathai.org Warning: include(../useronline.php): failed to open stream: No such file or directory in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/dhammastory/story46.php on line 516 Warning: include(../useronline.php): failed to open stream: No such file or directory in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/dhammastory/story46.php on line 516 Warning: include(): Failed opening '../useronline.php' for inclusion (include_path='.:/usr/local/lib/php') in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/dhammastory/story46.php on line 516