นายร้อยตำรวจเอกคนหนึ่ง เป็นผู้บังคับกองอยู่ในอำเภอหนึ่งนับเป็นตำรวจใหญ่ที่สุดในอำเภอนั้น
มีลูกน้องรอง ๆ ลงมาหลายคน ลูกน้องนับถือและชาวบ้านพากันเกรงกลัว แต่ออกจะขี้โอ่อยู่สักหน่อย
มักคุยอวดถึงสกุลรุนชาติของตนไปในทางใหญ่โตกว้างขวาง ความจริงก็เป็นลูกคนจน
แต่เรียนหนังสือเก่งมีผู้อุปะการะให้เรียนสำเร็จมีงานทำ
เวลาไปนั่งสถานีแกต้องวางท่าโก้หรือทำสง่าให้สมกับมีตระกูลสูง
ขณะที่กำลังสง่าอยู่ท่ามกลางลูกน้อง และชาวบ้านบางคนกำลังมาติดต่อก็มีตำรวจคนหนึ่งมายืนชิดเท้าระวังตรงรายงานว่ามีคนต้องการพบผู้กอง
ไปบอกให้เข้ามาได้ เสียงดังเฉียบขาด สมลักษณะผู้บังคับบัญชาสักครู่เดียวเท่านั่นก็มีหญิงชราผ้าผ่อนที่ใช้นุ่งห่ม
ออกจะปุปะ ถือห่อของรุงรังแสดงว่าเดินทางไกล พอเห็นเป็นคนมียศ และเป็นนายคนก็แสดงความดีใจจนน้ำตาไหลพูดแสดงตัวว่าเป็นแม่
"แม่พยายามจะมาหาหลายหนแต่ไม่ได้มา"
นายร้อยตำรวจทำท่าตรึกตรองอยู่พักหนึ่งในที่สุดก็พูดออกไปดัง ๆ ว่า
"ยายคงจะจำผิด"
เท่านั้นเองแม่ก็น้ำตาร่วงพร่างพรูมิได้พูดอะไร
จะเป็นด้วยผิดหวังอย่างหนัก หรือไม่ประสงค์จะพูด จะโดยเพื่อช่วยรักษาเกียรติของลูก
หรือเสียใจจนพูดไม่ออกก็ไม่รู้ได้
แล้วท่านก็สรุปว่า ต่อมานายร้อยตำรวจเอกคนนั้นก็ถูกปลดออกจากรายการ
เขาลือกันว่า แกอกตัญญู กรรมตามทัน เพราะปฏิเสธแม่บังเกิดเกล้าของตนว่าไม่ใช่แม่
เสแสร้งว่าเป็นยายอะไรจำผิดนั่นเอง !
หลังจากนั้นแล้วก็มีคนนำไปเล่าต่อ ๆ
กัน และคนที่ฟังต่างก็พากันเห็นชอบกับทางราชการที่ปลดคนอกตัญญู และต่างพากันสงสารแม่คนนั้น
ไม่ทราบจะมีความเสียใจสักเพียงไร และไปเป็นตายร้ายดีอย่างไร ลองนึกดูว่า
ถ้าเราเป็นแม่ คนนั้นจะเป็นอย่างไร ? และกรรมของเราออกจะหนักมาก การปฏิเสธแม่ว่ามิใช่แม่ต่อหน้าของแม่เอง

|