Warning: file(../ad468.txt): failed to open stream: No such file or directory in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/randomad468.php on line 4
 
 
พระพุทธศาสนา
หัวข้อธรรม
ธรรมะปฏิบัติ
ศาสนพิธี
วันสำคัญทางศาสนา
ทำเนียบวัดไทย
พระพุทธศาสนาในไทย
คลิ๊กอ่านรายละเอียด
คลิ๊กอ่านละเอียด
คลิ๊กอ่านรายละเอียด
รวบรวมบทสวดมนต์และพระคาถาต่างๆ
+ The British Dispensary (L.P.)
+ Spa Of Eternity

นิทานธรรมะบันเทิง

สุนัขผู้กล้าหาญ
เรื่องจาก : นิทานธรรม ฉบับพิเศษ
จำนวนคนอ่าน 3475 คน
โดย : ธรรมสภา  
วันที่ online : 29 ตุลาคม 2547  

บริเวณป่าช้าใหญ่ซึ่งอยู่ชานเมืองพาราณสี แคว้นกาสี มีสุนัขหลายร้อยตัวมาอาศัยอยู่รวมกัน โดยมีพญาสุนัขตัวหนึ่งเป็นหัวหน้า

ครั้งนั้น พระพุทธเจ้าของเรา เกิดเป็นพญาสุนัข เป็นหัวหน้าของสุนัขเหล่านั้น มีหน้าที่คอยดูแลความเป็นอยู่และสุขทุกข์ คราวใดที่เกิดภัย ก็จะเข้าช่วยเหลือปกป้องคุ้มครองให้สุนัขเหล่านั้นพ้นภัย

วันหนึ่ง พระราชาทรงนั่งรถม้าเสด็จไปประพาสพระอุทยาน ทรงเกษมสำราญอยู่ในพระอุทยานนั้น ตลอดทั้งวันและเสด็จกลับเข้าเมืองเมื่อเวลาพลบค่ำ

รถม้าคันหนึ่งพระราชาประทับไปนั้นตกแต่งสวยงาม ตัวรถหุ้มด้วยหนังสัตว์ทั้งคัน แม้แต่เชือกและเครื่องรัดต่างๆ ก็ทำด้วยหนังสัตว์ ดังนั้นเมื่อเสร็จภารกิจแล้ว ตามปรกติ เจ้าหน้าที่จะเก็บหนังหุ้มรถ เชือกและเครื่องรัดต่างๆ แยกไว้ต่างหากจากตัวรถ เพื่อกันคนขโมยหรือกันสุนัขมากัดกิน แต่วันนั้น เนื่องจากกลับมาถึงเวลาพลบค่ำ เจ้าหน้าที่จึงจอดรถไว้ที่หน้าพระลาน โดยที่ยังมิได้เก็บหนังหุ้มรถ เชือก และเครื่องรัดต่างๆ เหมือนอย่างที่เคย

ตกกลางคืน เกิดฝนตกหนัก หนังหุ้มรถ เชือกและเครื่องรัดทั้งหมดเปียกชุ่ม สุนัขหลวงได้กลิ่นจึงลงมาจากปราสาท กัดกินหนังเชือกและเครื่องรัดจนหมด รุ่งเช้าพวกเจ้าหน้าที่ดูแลรถมาตรวจดูต่างก็ตกใจจึงรีบไปกราบทูลพระราชา

"ขอเดชะ เมื่อคืนตอนฝนตก พวกสุนัขจรจัดเข้ามาทางท่อน้ำ กัดกินหนังหุ้มรถ เชือกและเครื่องรัดจนหมด พระเจ้าข้า"

พระราชาได้ยินเจ้าหน้าที่กราบทูลเช่นนั้นก็ทรงพิโรธมาก กระทืบพระบาทและตรัสสั่งอย่างเฉียบขาดว่า

"นับแต่นี้ไป พวกเจ้าพบเห็นหมาจรจัดที่ไหน จงฆ่าทิ้งให้หมด"

นับแต่นั้นมา สุนัขนอกพระราชวังต่างเดือดร้อนกันทั่ว เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่มาพบเข้าก็จะถูกเหมาว่าเป็นสุนัขจรจัดและถูกฆ่าทิ้งหมด สุนัขเหล่านั้นเมื่อไม่ทราบจะช่วยตัวเองได้อย่างไร จึงพากันไปหลบอยู่ในป่าช้ารวมกับบริวารของพญาสุนัข

พญาสุนัขเห็นพวกสุนัขมาอยู่รวมกันมากกว่าแต่ก่อน เริ่มรู้สึกผิดปรกติ วันหนึ่งได้โอกาสจึงเข้าไปถามถึงสาเหตุ

"มีอะไรหรือ พวกเจ้าจึงมารวมอยู่ที่นี่กันมากผิดปรกติ"
"หัวหน้า..." สุนัขตัวหนึ่งรายงาน "มีเหตุร้ายเกิดขึ้นแก่พวกเรา ตอนนี้ถูกพระราชาสั่งให้ฆ่าตายเป็นเบือ เพราะพระองค์โกรธหาว่าพวกเรา ซึ่งเป็นหมานอกพระราชวังเข้าไปกัดกินหนังหุ้มรถ เชือกและเครื่องรัดถึงในพระราชวัง"
"เรื่องเป็นอย่างนี้แหละหัวหน้า" สุนัขอีกตัวหนึ่งสรุปและโอดครวญ "พวกเรากลัวจะถูกฆ่าตายเหมือนเพื่อนๆ เลยพากันมาหลบอยู่กับท่าน"

พญาสุนัขได้ฟังคำนั้นแล้วก็คิดหาเหตุผลในเรื่องที่พระราชากล่าวหาว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่พวกสุนัขขางนอกจะเข้าไปกัดกินหนังหุ้มรถ เชือกและเครื่องรัดถึงในพระราชวัง ในที่สุดก็สรุปได้ว่า

"พระราชวังเป็นสถานที่ที่มีการอารักขาอย่างแข็งแรง โอกาสที่พวกสุนัขข้างนอกจะเข้าไปได้ไม่มีเลย ฉะนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกสุนัขข้างนอกอย่างพวกเราจะเข้าไปกัดกินอย่างที่ถูกกล่าวหา"

"แล้วถ้าอย่างนั้น สุนัขพวกไหนล่ะกัดกิน" พญาสุนัขคิดหาเหตุผลต่อไป ก็ประจักษ์ชัดว่าต้องเป็นสุนัขในพระราชวังนั่นเองกัดกิน

"ตอนนี้ ความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นแล้ว" เขาคิด "พวกที่ทำความผิดกลับปลอดภัย แต่พวกที่ไม่ทำความผิดกลับถูกฆ่าตาย เราควรจะเปิดเผยเรื่องนี้"

เมื่อคิดได้ดังนี้ พญาสุนัขก็พูดปลอบพวกสุนัขบริวารมิให้หวาดกลัวภัยอีกต่อไป และขอร้องให้ทุกตัวอยู่รวมกันที่นี่ จนกว่าตนจะกลับมา จากนั้นเขาก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปเฝ้าพระราชาถึงพระราชวัง

พญาสุนัขเป็นสุนัขแสนรู้ ก่อนออกเดินทางได้ตั้งจิตแผ่เมตตาไปยังพระราชา ข้าราชบริพาร และชาวเมืองทั่วไป รวมทั้งขอให้ทุกคนเมตตาตนและสุนัขบริวาร ผลปรากฏว่าการตั้งจิตแผ่เมตตาของพญาสุนัขได้ผล ตลอดทางที่ผ่านไปนั้น แคล้วคลาดปลอดภัยไม่มีใครมาทำอันตรายหรือขัดขวาง จนเขาสามารถเข้าไปเฝ้าพระราชาได้สำเร็จ

"ขอเดชะ..." เขากราบทูล "พระองค์รับสั่งให้ฆ่าสุนัขหรือ"
"ใช่...เราสั่งให้ฆ่าเอง" พระราชาทรงยอมรับ
"สุนัขพวกนั้นมีความผิดอะไร พระเจ้าข้า"
"มันกัดหนังหุ้มรถ เชือก และเครื่องรัดที่รถเรา"
"พระองค์รู้แน่แล้วหรือว่าสุนัขพวกนั้นกัดกิน พระเจ้าข้า"
"ยังไม่รู้แน่ แต่ก็เชื่อว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น"
"การที่พระองค์ยังไม่รู้แน่แล้วสั่งให้ฆ่านั้น นับว่าไม่ยุติธรรมเลย พระเจ้าข้า"
"ที่เราสั่งให้ฆ่าก็เพราะเจ็บใจที่พวกสุนัขมันมากัดกินหนังหุ้มรถของเรา"
"พระองค์สั่งให้ฆ่าสุนัขทุกตัวหรือว่ายกเว้นสุนัขบางพวก พระเจ้าข้า"
"ไม่ได้สั่งให้ฆ่าทุกตัวหรอก สุนัขที่อยู่ในวังเราไม่ได้สั่งให้ฆ่า"

"ขอเดชะ..." พญาสุนัขกราบทูลแข็งขัน "พระองค์ลำเอียง พระองค์สั่งให้ฆ่าเฉพาะพวกสุนัขที่พระองค์ไม่โปรด ไว้ชีวิตแก่พวกสุนัขที่พระองค์โปรด ทั้งๆที่พวกสุนัขทั้งหมดมีโอกาสทำผิดได้เหมือนกัน"

พระราชได้ฟังพญาสุนัขกราบทูลอย่างนั้นแล้วนิ่งอึ้ง พญาสุนัขเห็นเป็นโอกาสจึงกราบทูลแข็งขันต่อไปว่า

"ขอเดชะ...พระราชาลำเอียงไม่เหมาะสม พระราชาที่ดีต้องทำตัวให้เหมือนคันชั่ง เมื่อเกิดเหตุการ์อะไรขึ้น ต้องสืบหาสาเหตุก่อน จึงค่อยลงโทษ"

จากนั้น พญาสุนัขนั้นจึงได้กล่าวเตือนพระราชาอีกว่า
"พวกสุนัขที่เกิดและเติบโตในราชตระกูล มีร่างกายแข็งแรงและมีผิวพรรณสวยงาม ทำผิดกลับไม่ถูกฆ่า แต่ข้าพระองค์ทั้งหลาย (ไม่ได้ทำผิด) กลับถูกฆ่า การฆ่าแบบนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการฆ่าผู้ที่อ่อนแอ"

คำเตือนของพญาสุนัขทำให้พระราชาได้คิด พระองค์ได้ตรัสถามว่า

"เจ้าแสนรู้ เจ้ารู้หรือว่าสุนัขพวกไหนกัดกินหนังหุ้มรถ เชือกและเครื่องรัดรถเรา"
"รู้ พระเจ้าข้า" พญาสุนัขกราบทูล
"พวกไหนล่ะ"
"พวกที่พระองค์เลี้ยงไว้ในพระราชวังนั่นแหละ พระเจ้าข้า"
"เจ้ามีหลักฐานหรือ"
"มีพระเจ้าข้า" พญาสุนัขกราบทูล จาดนั้นก็ทูลพระราชให้ต้อนพวกสุนัขหลวงมาอยู่ในที่เดียวกัน แล้วให้หาหญ้าคาและน้ำเปรียงมาโขลกคลุกกัน คั้นเอาน้ำกรอกปากสุนัขพวกนั้น พอน้ำยาตกถึงท้องเท่านั้น สุนัขพวกนั้นก็สำรอกออกมาพร้อมกับชิ้นหนังที่กินเข้าไป

พระราชาทรงยอมจำนนต่อหลักฐานและยอมรับผิด พญาสุนัขจึงทูลขอให้พระราชทานอภัยแก่สุนัขทั้งหมดรวมทั้งทูลขอให้ไว้ชีวิตแก่สัตว์ทุกประเภท พระราชาทรงรับคำ และเพื่อเป็นการตอบแทนความดีแก่พญาสุนัข พระราชาจึงรับสั่งให้พระราชทานอาหารแก่เขาและบรรดาสุนัขทั้งหมด ทั้งในและนอกพระราชวังตลอดรัชกาล

นิืทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ผู้นำต้องตั้งอยู่ในความยุติธรรม การลงโทษโดยที่ยังมิได้สืบสวนหาความผิดนั้น ไม่ถูกต้อง อย่างพระราชาสั่งลงโทษพวกสุนัขโดยไม่สอบสวนฉะนั้น

หน้าแรก พระพุทธศาสนา ประวัติพระพุทธสาวก หัวข้อธรรม ธรรมปฏิบัติ ศาสนพิธี วันสำคัญทางศาสนา ทศชาติชาดก วิทยุธรรมะไทย
พุทธศาสนสุภาษิต พจนานุกรมพุทธศาสน์ ทำเนียบวัดไทย คลังแสงแห่งธรรม พระพุทธศาสนาในเมืองไทย ข่าวธรรมะ กิจกรรมธรรมะ สมุดเยี่ยม
ธรรมะไทย - dhammathai.org Warning: include(../useronline.php): failed to open stream: No such file or directory in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/dhammastory/story20.php on line 558 Warning: include(../useronline.php): failed to open stream: No such file or directory in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/dhammastory/story20.php on line 558 Warning: include(): Failed opening '../useronline.php' for inclusion (include_path='.:/usr/local/lib/php') in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/dhammastory/story20.php on line 558