"การประชุมสุดยอดผู้นำพุทธศาสนาแห่งโลก
ครั้งที่ 4" ได้ฤกษ์เปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ
เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ หอประชุมอาคารชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
กองทัพเรือ กรุงเทพฯ
เวลา 09.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในการประชุม
โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลรายงานเกี่ยวกับการจัดงานประชุมสุดยอดผู้นำพุทธศาสนาแห่งโลก
ที่เกิดขึ้นจากความคิดริเริ่มของคณะสงฆ์มหายานนิกายเนนบุทสุชุ
แห่งประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปีพ.ศ.2541 จัดขึ้นเมื่อวันที่
1-5 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
(มมร.) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ เป็นเจ้าภาพดำเนินการ
สำหรับการประชุมครั้งนี้
มีผู้แทนราชวงศ์จากประเทศภูฏาน กัมพูชา ผู้นำพุทธศาสนาและผู้แทนตลอดจนพุทธศาสนิกชนจาก
23 ประเทศ ทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรป จำนวนประมาณ 3,700
รูป/คน เข้าร่วม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพของพระพุทธศาสนาทั้งนิกายมหายาน
และเถรวาท เผยแผ่หลักธรรมคำสอน พระวินัย แนวทางการศึกษาและปฏิบัติพิธีกรรมแก่ชาวโลก
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำรัสเปิดการประชุม
มีใจความว่า "ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ข้าพเจ้าขอต้อนรับผู้นำประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาผู้นำชาวพุทธ
ผู้แทน และผู้เข้าร่วมประชุมที่เป็นชาวต่างประเทศทุกท่านล้วนเป็นญาติทางธรรมของพวกเรา
เพราะเราเป็นชาวพุทธด้วยกัน"
"ข้าพเจ้ายินดีและทราบว่าผู้นำพุทธศาสนาจาก
23 ประเทศที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ มีทั้งพระสงฆ์และคฤหัสถ์
จากทั้งฝ่ายเถรวาทและมหายานได้มาร่วมประชุมกันเพื่อแสวงหาแนวทางร่วมกันในการเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนาสู่สังคมโลก
โดยมุ่งที่จะให้ชาวโลกนำธรรมะในพระพุทธศาสนามาเป็นหลักปฏิบัติในการดำรงชีวิตเพื่อที่ชาวโลกจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
และเอื้ออาทรต่อกัน ตามหลักอหิงสธรรมในพระพุทธศาสนา
สมกับพระพุทธภาษิตที่ว่านัตถิ สันติ ปะรัง สุขัง
สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบสุขไม่มี"
ต่อจากนั้น พระองค์ทรงลั่นฆ้องชัย
และทรงรับของที่ระลึกจากสมเด็จพระญาณวโรดม อุปนายกสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
(มมร.) ผู้นำพุทธศาสนา
โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
ในฐานะตัวแทนผู้นำพุทธศาสนาในประเทศไทย และทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้นำประเทศที่เข้าร่วมประชุม
ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ
สมเด็จพระญาณวโรดม
อุปนายกสภา มมร. ได้อัญเชิญพระวรธรรมคติของสมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งได้ประทานในการประชุมครั้งนี้
ใจความตอนหนึ่งว่า การพัฒนาในความหมายทางพระพุทธศาสนา
มีความหมายถึงการเสริมสร้างปรับปรุงให้ดีเจริญขึ้น
เป็นกิจที่ควรทำ เพราะบ้านเมืองจะเกิดความเจริญก็ด้วยการพัฒนาในส่วนต่างๆ
ที่ยังด้วยความเจริญอยู่ แต่ต้องพัฒนาคนด้วย ในการพัฒนาคน
จำต้องพัฒนาให้ถึงจิตใจถ้าคนมีจิตใจไม่เจริญ ยากที่จะพัฒนาส่วนอื่นๆ
ให้เกิดผลสำเร็จได้
ทั้งนี้ กิจกรรมสำคัญในการประชุมครั้งนี้
คือผู้นำพุทธศาสนาทุกนิกายเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ครบ 60 ปี การนำเสนอสารจากผู้นำประเทศ
สุนทรพจน์ บทความวิชาการ และการประชุมโต๊ะกรมเฉพาะผู้นำเพื่อแสวงหาแนวทางความร่วมมือกันในการเผยแผ่หลักธรรม
ต่อมาเวลา
15.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมงานประชุมสุดยอดผู้นำพุทธศาสนาแห่งโลก
และได้ขึ้นบนเวทีกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุม ว่า
ก่อนที่จะเข้ามาสู่แวดวงการเมือง ได้เคยศึกษาหลักธรรมในทางพระพุทธศาสนามาโดยตลอด
ครั้นพอได้เข้ารับดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ระยะแรก
เมื่อเกิดปัญหา ยังไม่สามารถจะจัดการกับปัญหาที่เข้ามาในชีวิตได้ทันที
ต่อมา จึงได้นำหลักธรรมคำสอนมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
จึงอยากให้ทุกคนนำหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนามาใช้ในการดำเนินชีวิตและช่วยกันเผยแผ่ศาสนา
เพื่อให้เกิดสันติสุข ด้วยว่าพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่เป็นมิตรกับศาสนาอื่นๆ
ทั่วโลก อีกทั้งเราไม่เคยมองดูศาสนาอื่น เป็นศัตรู
แต่มองดูและอยู่กันด้วยความเข้าใจ ด้วยความเป็นมิตร
และอยากให้มีการแลกเปลี่ยนความคิด เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันต่อไปในอนาคต
|