พระครูการุณยนิวิฐ
เจ้าคณะอำเภอจะแนะ-เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เปิดเผยถึงความเป็นอยู่ของพระภิกษุใน
อ.จะแนะ ว่า ความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากพระภิกษุไม่สามารถออกไปบิณฑบาตได้ตามปกติเป็นระยะเวลานาน
4-5 เดือน ด้วยเกรงอันตรายที่จะได้รับ ส่วนชาวบ้านไม่มีใครกล้าที่จะออกมาทำบุญใส่บาตรด้วยเช่นกัน
ได้แต่นำอาหารที่จะใส่บาตรมาแขวนไว้หน้าบ้าน พระภิกษุจึงให้คนไปนำมาและจากเหตุการณ์ที่ตันหยงลิมอ
พระบางรูปเกิดความกลัว ได้ขอลาสิกขาออกไประหว่างพรรษา
ทำให้พระที่จะรับผ้าป่าในวันออกพรรษาที่กำลังจะมาถึง
มีพระอยู่ไม่ครบ ทำได้เพียงแค่รับกฐินที่อำเภอจัดมาถวายเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จำนวนพระภิกษุจะลดลงอย่างมาก
แต่วัดต่างๆ ยังไม่ถึงกับร้าง ยังมีพระอยู่จำพรรษาทุกวัด
อย่างน้อยมีเจ้าอาวาสอยู่ 1 รูป
พระครูการุณยนิวิฐ
กล่าวต่อว่า ชาวบ้านมากกว่า 500 ครอบครัว ต้องประสบกับปัญหาจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องต้องอยู่อย่างหวาดผวา
วิถีชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนแปลงจากเดิมค่อนข้างมาก
การประกอบอาชีพต่างๆ ต้องปรับเปลี่ยนใหม่ เช่น เวลาของการกรีดยางที่เริ่มออกไปกรีดได้ตั้งแต่เวลา
24.00 น. แต่ปัจจุบันต้องรอให้สว่างเสียก่อน การค้าขายไม่สามารถทำได้ตามปกติ
เนื่องจากมีการข่มขู่ว่าจะทำร้าย หากไปค้าขายโดยเฉพาะวันศุกร์
แต่ในเรื่องนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยผลัดเวรยามมาคอยดูแลความสงบปลอดภัยอยู่เป็นประจำ
ทำให้ประชาชนพอรู้สึกอุ่นใจได้บ้าง ส่วนความช่วยเหลือจากรัฐที่ให้กับพระภิกษุ
ถือว่าน้อยมากมีเพียงกองทุน "วัดช่วยวัด"
เท่านั้น ที่ให้ความช่วยเหลือในตอนนี้ สำหรับการจัดส่งพระลงมาอยู่ในพื้นที่
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ ถือว่าสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพระภิกษุและประชาชนได้ในระดับหนึ่ง
"ในเขตการปกครองของอาตมา
มีพระที่มาจากโครงการมาพักตามวัดต่างๆ จำนวน 7 รูปด้วยกัน
ส่วนปัญหา มีอยู่บ้าง เพราะว่าพระที่ลงมา ไม่คุ้นเคยกับคนในพื้นที่
มีความแตกต่างทางด้านภาษาและวัฒนธรรม ทำให้ยากแก่การปรับตัว
และในช่วงออกพรรษานี้ คาดว่าพระที่มากับโครงการทั้ง
7 รูป คงจะกลับหมด หากทางมหาเถรสมาคมจะส่งพระลงไปใหม่อีกครั้งขอให้มีการพิจารณาถึงความเหมาะสมและพระที่จะมาพักยังวัดนั้นๆ
ขอให้ท่านเจ้าอาวาสวัดเห็นชอบเสียก่อน" พระครูการุณยนิวิฐกล่าว
|