ตามที่มีประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวจำนวนมาก วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเปลี่ยนแปลงองค์พระพุทธชินราช หลังจากที่มีการลงรักปิดทองใหม่ ว่า เกิดร่องรอยเป็นปื้นดำและรอยเชื่อมของแผ่นทองยังไม่สนิททำให้ดูไม่สวยงามเหมือนเมื่อครั้งยังไม่มีการบูรณะ

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพิษณุโลกจึงเดินทางไปที่วิหารพระพุทธชินราช ภายในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ต.ในเมือง อ.เมือง พิษณุโลก จากการสอบถามประชาชนและนักท่องเที่ยวหลายคน ต่างยอมรับว่า องค์พระพุทธชินราช หลังการบูรณะลงรักปิดทองใหม่ดูไม่สวยงามเหมือนก่อน โดยเฉพาะความเรียบของแผ่นทองที่ปิด เพราะช่างไม่ทำให้เกิดรอยเชื่อมที่สนิทเป็นแผ่นเดียวกันได้ เมื่อมองจึงเห็นแผ่นทองปะติดเต็มองค์พระไม่สวยงาม

ด้านนายวินัย ชาญวิชัย ไวยาวัจกร วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เปิดเผยว่า เป็นความรู้สึกของพี่น้องประชาชนที่ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่เนียนขององค์พระ ด้วยมองเห็นเป็นตารางสี่เหลี่ยมของแผ่นทองเต็มไปหมด หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่า เกิดจากฝีมือช่างไม่ถึง ทำให้เกิดรอยต่อของแผ่นทองคำชัดเจน พอนานวันเข้าองค์พระพุทธชินราช เริ่มถูกฝุ่นจับจนเกิดเป็นรอยปื้นดำเป็นจุดๆ ดูแล้วหมอง ไม่เหลืองอร่ามสวยงามเหมือนในอดีต คงต้องให้เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการจากกรมศิลปากรมาดำเนินการแก้ไข

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นางจารุวรรณ ธีรธำรง นายช่างศิลปกรรม กรมศิลปากร หัวหน้าโครงการบูรณะลงรักปิดทององค์พระพุทธชินราชใหม่ ได้ออกมายืนยันว่า เมื่อนานๆ ไปรอยต่อของแผ่นทองคำเปลวที่ช่างปิดลงไปบนองค์พระที่มองเห็นตารางสี่เหลี่ยมชัดเจนนั้นจะค่อยๆ เลือนหายไปเอง แต่ปรากฏว่า เวลาล่วงเลยผ่านมานานพอสมควร ร่องรอยดังกล่าวยังไม่หายไป แต่ยังเกิดการเกาะตัวของฝุ่นจนเป็นรอยดำเต็มไปหมด จากการสอบถามเจ้าหน้าที่บางคนระบุว่า หลังการลงรักปิดทองเสร็จมีการใช้ขี้ผึ้งทาทับลงไปทั่วองค์พระ โดยไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ เพื่อต้องการรักษาสภาพขององค์พระที่ผ่านการปิดทองใหม่หรือเจตนาให้เกิดการจับตัวของฝุ่นเพื่อลบรอยสี่เหลี่ยมของแผ่นทองคำเปลว ประชาชนและนักท่องเที่ยวต้องการให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเข้าไปดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว เพราะมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมากราบไหว้องค์พระพุทธชินราชเป็นจำนวนมาก หากปล่อยให้องค์พระหมองอยู่ คงไม่เป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างวิพากษ์วิจารณ์ ว่า เกศเปลวเพลิงของพระพุทธชินราชได้หายไป หลังจากที่มีการบูรณะปิดทองใหม่ ซึ่งเกิดจากช่างได้ดำเนินการเปลี่ยนแสงสว่างใหม่ ทำให้แสงเงาที่มีมุมกระทบกับองค์พระเปลี่ยนไปจากเดิม หากมองด้วยตาเปล่าคล้ายกับเกศเปลวเพลิงองค์พระหายไป สุดท้ายกรมศิลปากรต้องจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปแก้ไขใหม่