น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล รมว.สาธารณสุข ในฐานะรองประธานคนที่หนึ่ง คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวถึงโครงการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ปีที่ 3 ว่า จากการประเมินผลพบว่าประชาชนรับทราบโครงการรณรงค์ โดยในปี 2548 ได้จัดทำใบปฏิญาณตนแจกจ่ายไปทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะมีผู้ร่วมลงนามในใบปฏิญาณตนและส่งกลับมา 1 ล้านคน โดยใบปฏิญาณตนแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 สำหรับส่งกลับมาที่เครือข่ายองค์กรงดเหล้า ส่วนที่ 2 คือภาพพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก สำหรับเก็บไว้บูชาหรือมอบให้ผู้อื่น ส่วนที่ 3 สำหรับมอบให้คนที่รัก เพื่อให้รู้ว่าตั้งใจจะหยุดเหล้า ส่วนการรณรงค์ยังคงต้องทำต่อเนื่องไป ขณะเดียวกัน นโยบายยังมีเรื่องที่ต้องทำร่วมกับกรมสรรพสามิต เพื่อช่วยผลักดันเรื่องการควบคุมการจำหน่ายแอลกอฮอล์ การจำกัดเวลาในการจำหน่าย โดยเฉพาะหน้าเทศกาลต่างๆ หรือสถานที่ที่มีผู้ขับขี่ยานพาหนะอยู่เพื่อเป็นส่วนช่วยลดอุบัติเหตุอีกทาง

ด้าน น.พ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม รองประธานคนที่สอง คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า เครือข่ายองค์กรงดเหล้า ร่วมกับองค์กรกว่าร้อยองค์กรในเครือข่าย และสมาคมหมออนามัยประมาณ 7,9000 แห่ง ทั่วประเทศ จะร่วมกันแจกจ่ายใบปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา กระจายไปทุกสถานที่ ผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับได้ทาง www.stopdrink.com หรือที่เครือข่ายองค์กรงดเหล้า โทร.0-2733-6008 ถึง 9 โดยข้อมูลที่ได้รับกลับคืนมา จะนำถูกบรรจุลงคอมพิวเตอร์ เพื่อเก็บสถิติทั้งหมดที่จะเป็นข้อมูลเชิงลึก ให้ทราบถึงอายุ สถานภาพ พฤติกรรมการดื่ม โดยจะนำข้อมูลเหล่านี้มาเป็นส่วนหนึ่งในการประมวล หาแนวทางการลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อไป สำหรับโครงการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาในปีแรกมีผู้เข้าร่วมร้อยละ 51 ของจำนวนผู้ที่ดื่มเหล้า แต่ปีที่ 2 ลดลงเหลือ ร้อยละ 47 แม้จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการจะลดลง แต่ผลของการรณรงค์ทำให้ประชาชนรู้จักโครงการแพร่หลายมากขึ้น โดยกลุ่มประชากรที่ยังต้องเน้นรณรงค์คือ กลุ่มประชากรวัยหนุ่มสาว ที่ผ่านมาผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะมีอายุมากว่า 49 ปี แต่กลุ่มหนุ่มสาวที่เป็นลูกค้าหลักของบริษัทสุรานั้นรู้และเข้าใจในโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาแต่ยังเข้าร่วมน้อย ในปีนี้จึงเน้นการปฏิญาณตนเป็นสำคัญ

น.พ.อุดมศิลป์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ องค์กรต่างๆ ในเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ยังร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ ในวาระ "งดเหล้าเข้าพรรษา" ทั่วประเทศ เช่น จ.นครราชสีมา และองค์กรของเครือข่ายได้ร่วมกันประกาศนโยบาย "โคราชวัดปลอดเหล้าเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาราช" เพื่อดำเนินการให้วัดในจังหวัดจำนวน 2,860 แห่ง ไม่มีงานบุญหรือกิจกรรมใดที่มีการดื่มสุราในเขตวัดอย่างสิ้นเชิง สมาพันธ์ชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพไทยจัด "เดิน-วิ่ง งดเหล้าเข้าพรรษา" ทั้งสี่ภาคทั่วประเทศ มีเป้าหมายให้กลุ่มนักดื่มประจำกว่าสามหมื่นคนมาร่วมวิ่งและปฏิญาณตนงดเหล้า และสสส. ขอความร่วมมือร้านอาหารให้ร่วมติดป้ายแบนเนอร์ และสื่อบนโต๊ะรณรงค์ "งดขายเหล้าช่วง