สมเด็จพระพุฒาจารย์
ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
กล่าวให้โอวาทแก่ผู้สำเร็จการศึกษาศาสนศาสตรบัณฑิต
รุ่นที่ 51 และศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สมัยที่ 13 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
ในพิธีประทานปริญญาบัตร ณ หอประชุมพุทธมณฑล ต.ศาลายา
อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ว่า การจัดการศึกษามุ่งให้ใช้ความรู้สมัยปัจจุบัน
เป็นเพียงแนวทางในการศึกษาค้นคว้าและเผยแผ่พระพุทธศาสนา
รวมทั้งข้อที่กล่าวถึงการสอน การอบรม ให้เห็นความสำคัญของความรู้ทางพระพุทธศาสนา
ทั้งภาคปริยัติ และภาคปฏิบัติ อันนับได้ว่า เป็นการช่วยการศึกษาของสถาบันสงฆ์
และของคนในชาติทั้งมวล
ผู้ที่เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา
มีธุระที่จะพึงศึกษาอยู่ 2 ประการ คือ คันถธุระและวิปัสสนาธุระ
การสำเร็จการศึกษาฝ่ายปริยัติ เป็นเพียงบันไดขั้นแรก
ที่จะนำไปสู่การปฏิบัติอันจะอำนวยให้ประสบผล ดังนั้น
เมื่อสำเร็จทางด้านปริยัติธรรมแล้ว จึงควรมีความสนใจเป็นอันมาก
ในเรื่องการปฏิบัติธรรมและปฏิเวธธรรม เมื่อเป็นเช่นนั้น
การศึกษาจะได้ชื่อว่าเป็นการศึกษาที่สมบูรณ์
ขอให้ผู้สำเร็จการศึกษาได้มีความสนใจในข้อนี้ให้มาก
ปริญญาบัตรนี้ เป็นเพียงแผ่นกระดาษที่ปราศจากความรู้
ความสามารถ ผู้ได้รับถ้าไม่มีความรู้ ความสามารถจริง
ปริญญาบัตรย่อมไม่มีความหมาย จึงควรเพิ่มพูนความรู้
ความสามารถ ให้กลายเป็นปัญญาที่แท้จริง ให้ได้ผลดีทั้งทางวิชา
คือความรู้ และจรณะ คือ ความประพฤติ ปริญญาบัตรจะมีความหมายและทำให้ผู้ถือมีเกียรติ
ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
ในการปฏิบัติงานด้านการศึกษาและพระพุทธศาสนา ขอให้หมั่นเพียรแสวงหา
บุกเบิกให้ทันสมัยและทันโลก เพื่อนำมาปรับใช้ในบ้านเมืองของเราให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น
|