วันถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า
เป็นคำที่บุคคลทั่วไปเรียกขาน แต่ตามศัพท์ของพุทธศาสนาหรือฝ่ายสงฆ์เรียกว่า
"วันอัฎฐมีบูชา" คือ การบูชาในดีถีที่
8 ซึ่งเป็นวันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 ตามจันทรคติ
ด้วยพระพุทธเจ้าเสด็จสู่พระปรินิพพาน
เมื่อวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ครั้นถึงวันที่ 8 เป็นดิถีอัฎฐมี
จึงอัญเชิญพระบรมศพแห่ไปประดิษฐาน ณ มกุฎพันธเจดีย์
ตามตำนานกล่าวว่า "ครั้นได้เวลาถวายพระเพลิง
ปรากฏว่าไฟไม่ติด พระอนิรุทธพุทธสาวกได้ทราบว่าเทพยดาที่รักษาพระบรมศพ
ปรารถนาจะให้คอยพระมหากัสสปพุทธสาวกผู้เป็นใหญ่ก่อน"
"วันอัฎฐมี 8 ค่ำ
เดือน 6 พระมหากัสสปพร้อมด้วยพระภิกษุ 500 รูป เดินทางมาเฝ้าพระพุทธเจ้า
ได้ทราบว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว
7 วัน ต่างโศกเศร้า แล้วรีบเดินทางไปยังพระจิตกาธารที่ประดิษฐานพระบรมศพ
"พระมหากัสสปได้กล่าวสรรเสริญพระพุทธคุณและถวายสักการะ
ณ ปลายพระบาท พระเพลิงก็พวยพุ่งขึ้นบนเชิงตะกอนพระจิตกาธารเป็นการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีรฌาปนกิจ"
ประเพณีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้า
(วันอัฎฐมีบูชา) หรือชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่าประเพณีเผาศพพระพุทธเจ้าจำลอง
ซึ่งพุทธศาสนิกชน ต.วัดละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จัดสืบทอดกันมากว่า
100 ปีแล้ว
เพื่อมุ่งหวังให้เป็นเครื่องเตือนสติพุทธศาสนิกชนได้รำลึกถึงพระพุทธคุณ
พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ อันจะเป็นหลักแห่งการประพฤติปฏิบัติที่เกื้อกูลขนบธรรมเนียมประเพณี
รวมทั้งเพื่อรักษาประเพณีทางพระพุทธศาสนาที่ดีงามให้คงอยู่กับชุมชนท้องถิ่นตำบลวัดละมุดสืบไป
การจัดงานวันอัฎฐมีบูชา
จัดหลังวันวิสาขบูชา 8 วัน ตรงกับวันแรม 8 ค่ำ เดือน 6
โดยในปีพ.ศ. 2548 กำหนดจัดงานประเพณีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้า
ในวันที่ 30 พ.ค. ณ วัดใหม่สุคนธาราม หมู่ 5 ต.วัดละมุด
อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
โดยวัดใหม่สุคนธาราม
ร่วมกับสภาวัฒนธรรมวัดละมุด องค์การบริหารส่วนตำบลวัดละมุด
และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 1 จ.กาญจนบุรี
ซึ่งได้จัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
เช่น การถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ การจำลองแห่พระบรมศพพระพุทธเจ้าจำลอง
การกระทำทักษิณาวัตรเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา การจัดขบวนแห่จำลองเหตุการณ์เกี่ยวกับพุทธประวัติ
นรกภูมิและวิถีชีวิตไทย ที่แสดงให้เห็นถึงผู้ที่กระทำผิดศีลจะได้รับกรรมตอบสนองในรูปแบบต่างๆ
ที่เป็นความทุกข์ทรมานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ย้ำเตือนให้พุทธศาสนิกชนที่ไปร่วมงานได้เกิดสติคำนึงถึงบาปบุญคุณโทษและมีความเกรงกลัวที่จะกระทำบาป
นอกจากที่กล่าวมาแล้วยังมีการแสดงมหรสพ การละเล่น และการจุดพลุตะไล
และดอกไม้ไฟถวายเป็นพุทธบูชา
พิธีกรรมของการถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้า
จะเริ่มตั้งแต่ตอนเช้าของวันที่ 30 พ.ค. ชาวบ้านจะช่วยกันตักบาตรและถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์
ที่วัดใหม่สุคนธาราม
จนกระทั่งถึงช่วงบ่าย
มีการจำลองพิธีอัญเชิญพระบรมศพพระพุทธเจ้าไปยังพระเมรุมาศ
โดยพราหมณ์ เทวดา นางฟ้า พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชน จากศาลาการเปรียญ
เดินทักษิณาวัตรพระเมรุมาศ 3 รอบ
ต่อจากนั้นจึงได้อัญเชิญพระบรมศพพระพุทธเจ้าประดิษฐานยังบนแท่นพระเมรุมาศ
(จำลอง) ซึ่งพระเมรุมาศเป็นลักษณะสี่เสา ทรงสูง แบบโบราณ
ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยการแทงหยวก ประดับด้วยผ้าแพรพรรณ
และจัดโต๊ะหมู่บูชาไว้ด้านหน้าของพระเมรุมาศ เพื่อให้พระสงฆ์
พุทธศาสนิกชน และผู้ศรัทธาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้สักการบูชาพระบรมศพ
เวลา
14.00 น. จะมีขบวนแห่เกี่ยวกับพุทธประวัติ นรกภูมิ และวิถีชีวิตไทย
จากหมู่บ้านต่างๆ จำนวน 9 ขบวน เคลื่อนจากหมู่บ้านมายังวัดใหม่สุคนธาราม
เมื่อขบวนแห่ถึงวัดแล้ว
(ประมาณ 17.00 น.) จะเริ่มพิธีสงฆ์ โดยพระสงฆ์ที่อยู่บริเวณพิธีจะร่วมกันสวดอภิธรรมพระบรมศพ
เมื่อสวดจบ ประธานฝ่ายสงฆ์และประธานฝ่ายฆราวาสนำดอกบัวและธูปเทียนไปถวายหน้าพระบรมศพ
ผู้มาร่วมพิธีทยอยนำดอกบัว ธูปเทียน ไปถวายหน้าพระบรมศพ
ชาวบ้านในแต่ละขบวนจะเดินออกบริเวณพิธี
เพื่อจุดพลุ ตะไล และดอกไม้ไฟ ถวายเป็นพุทธบูชาถือเป็นเสร็จพิธี
ในช่วงกลางคืน จะมีมหรสพพื้นบ้าน
ดนตรีไทย และการละเล่นที่ชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านจัดส่งมาแสดง
เป็นงานบุญประเพณีที่พุทธศาสนิกชนจะได้ช่วยกันอนุรักษ์และสืบสานให้คงอยู่สืบไป
|