นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ให้ความเห็นชอบงบกลางประจำปี 2548 จำนวน 57 ล้านบาทเศษ เพื่ออุดหนุนโครงการครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ถือเป็นประโยชน์ต่อสังคม ที่จะนำศาสนาเข้าสู่สถานศึกษา โดยนิมนต์พระสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถไปช่วยศีลธรรมและใช้หลักสูตรแกนกลางของกระทรวงศึกษาธิการร่วมกับคณะสงฆ์ดำเนินการ เพื่อปลูกฝังอบรมนักเรียนให้มีความรู้คู่คุณธรรม ซึ่งกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม มีเป้าหมายให้มีครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน 1 รูป 1 ตำบล งบดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 เพื่อเป็นค่าตอบแทนครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนรูปละ 2,000 บาท/เดือน จำนวน 4,000 รูป ตามระยะเวลาดำเนินการที่เหลือ 5 เดือนในปีงบประมาณ 2548 ระหว่าง พ.ค.-ก.ย. ส่วนที่ 2 เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อจัดทำสื่ออุปกรณ์การเรียนการสอน การอบรมร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ

นายปรีชา กล่าวต่อว่า กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม เตรียมแผนปฏิบัติการรองรับการดำเนินการ โดยจะประสานงานกับคณะสงฆ์ สถานศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจัดถวายความรู้พระสงฆ์ที่จะเข้าไปสอนในสถานศึกษาทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และระดับอื่นๆ เพื่อสร้างศักยภาพในการทำงานเป็นที่ยอมรับของสถานศึกษา และเพื่อปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้นักเรียนเข้าใจหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ได้มีการจัดตั้งสถาบันส่งเสริมและเผยแผ่การพระศาสนาแห่งประเทศไทยขึ้นที่วัดยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ โดยมี พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นผู้อำนวยการสถาบัน ตามมติมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2547 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พระสงฆ์ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม ด้วยการอบรมสั่งสอนนักเรียนในสถานศึกษาทั่วประเทศ

จากการที่รัฐบาลได้อนุมัติงบกลางเพื่ออุดหนุนครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ทำให้พระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชน มีความชื่นชมยินดีที่รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนพระสงฆ์ให้เข้าไปอบรมสั่งสอนเด็กและเยาวชนในสถานศึกษา จะเป็นการบูรณาการการศึกษาและศาสนา เข้าไปในวิถีชีวิตได้เป็นอย่างดี